Zack Fair

ザックス・フェア


เพศ : ชาย
วันเกิด : ไม่ทราบ
อายุ : 23 ปี ตอนเสียชีวิต
กรุ๊ปเลือด : O
สถานที่เกิด : Gongaga  
ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร
อาวุธ :
ดาบ

     

จงยึดมั่นความฝันนั้นไว้

แซ็ค แฟร์ เกิดในกองกาก้า เมืองในชนบทอันห่างไกลความเจริญ เขาออกจากบ้านกระทันหันตั้งแต่อายุได้เพียง 13 ปีเพื่อเข้าเป็นโซลเยอร์ของชินระ แซ็คมีความฝันตั้งแต่เยาว์วัยว่าเขาอยากเป็นวีรบุรุษ ซึ่งก็เป็นฝันตามประสาหนุ่มไฟแรงโดยที่ตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจความหมายของมันดีนัก แถมยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับโซลเยอร์หรือมาทีเรียเท่าไหร่ ถึงกระนั้นเขาก็ได้ขึ้นมาเป็นโซลเยอร์ระดับ 2nd class ในเวลาไม่นานด้วยความสามารถที่โดดเด่นเหนือคนอื่น

โซลเยอร์ผู้ที่ทั่วโลกเรียกขานว่าวีรบุรุษหนึ่งเดียวนั้นคือเซฟิรอธ สุดยอดโซลเยอร์ 1st class ของชินระที่เก่งกาจไร้ผู้ต่อต้าน และเป้าหมายของแซ็คก็คือการเป็นวีรบุรุษในระดับนั้น แต่ใครได้ยินเข้าต่างก็พากันหัวเราะความฝันอันไม่เจียมแท้ แม้แต่ลาซาร์ด หัวหน้าโซลเยอร์ของเขายังแซวว่า "ฝันให้มันสูงเว่อร์ๆไว้ก่อนก็อาจจะดีเหมือนกันนะ"

แซ็คฝึกฝนกับแองจีล ฮิวเลย์ โซลเยอร์ระดับ 1st class ผู้เป็นรุ่นพี่ที่คอยสั่งสอนหลายเรื่องทั้งการต่อสู้ การฝึกจิต และอุดมการณ์ แม้แซ็คจะเป็นหนุ่มเครื่องแรงใจร้อน เฮฮาอยู่ไม่สุข วิ่งไปทั่วเหมือนลูกหมามากกว่าจะดูน่าเกรงขามแบบโซลเยอร์ฝีมือฉกาจ แต่แองจีลก็เป็นไม่กี่คนที่สนับสนุนความใฝ่ฝันที่ดูจะเกินตัวของโซลเยอร์หนุ่มคนนี้

"แซ็ค ...จงยึดมั่นความฝันนั้นไว้ ถ้าอยากเป็นวีรบุรุษละก็ นายจะต้องมีความฝันและเกียรติภูมิ"

แซ็คปฏิบัติภารกิจลุล่วงได้อย่างดีมาตลอด แต่ขณะที่เส้นทางสู่การเป็นวีรบุรุษของเขากำลังไปได้สวยก็เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในชินระ เมื่อเจเนซิส โซลเยอร์ระดับ 1st class ผู้เป็นตำนานระดับเดียวกับเซฟิรอธและแองจีล ได้ถอนตัวออกจากชินระไปพร้อมพากองกำลังโซลเยอร์ลูกน้องของเขาไปด้วยโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ แถมตัวลาซาร์ดเองก็ดูเหมือนจะมีปัญหาบางอย่างกับชินระ แซ็คไม่รู้มาก่อนว่านอกจากการต่อสู้ร่วมกับเพื่อนๆและเป็นพระเอกหน้าฉากสำหรับผู้คนอย่างที่เขาต้องการแล้ว เขาจะต้องเข้ามาพัวพันกับความมืดภายในองค์กร ที่เป็นของแสลงสำหรับคนไม่ชอบคิดมากอย่างเขา

ในช่วงสงครามวูไทซึ่งชินระนำกองกำลังเข้าต่อสู้กับวูไทมหาอำนาจทางตะวันตกอย่างยาวนานนั้น แซ็คได้รับภารกิจสำคัญในการบุกถล่มป้อมแทมบลิน เขาเดินทางมาพร้อมแองจีลในทีมหลัก และสามารถถล่มป้อมแทมบลินได้อย่างราบคาบ แต่เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวกว่าทหารวูไทหลายเท่า กองกำลังที่เป็นร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสได้ลอบโจมตีโซลเยอร์ แถมแองจีลก็หายสาบสูญไปอีกคน แม้จะมีข่าวว่าแองจีลก็ทรยศเช่นเดียวกับเจเนซิส แต่ตอนนี้แซ็คยังไม่อยากเชื่อแบบนั้น เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแองจีลกันแน่

ความฝันหนึ่งเดียวของเทวดา

ชินระออกคำสั่งให้โซลเยอร์ออกตามล่าเจเนซิสและแองจีล แต่เซฟิรอธไม่อยากลงมือกับเพื่อนสนิท ชินระจึงมอบหมายให้แซ็คทำหน้าที่นี้ แม้แองจีลจะเป็นเพื่อนของเขาแต่ชินระก็เชื่อว่าเขาจะพาทั้งสองคนกลับมาได้ เขามายังหมู่บ้านบาโนร่าบ้านเกิดของแองจีลและเจเนซิสพร้อมกับเติร์กชื่อเส็ง เพื่อสืบหาเบาะแสบางอย่างจนได้พบกับโรงงานผลิตก๊อปปี้เจเนซิสด้านหลังเมือง ทำให้ชินระต้องส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดทำลายทั้งหมู่บ้าน เพื่อลบหลักฐานที่อาจก่อชื่อเสียให้กับองค์กร ครอบครัวของแองจีลและเจเนซิสถูกทั้งสองคนฆ่าตาย อีกทั้งเจเนซิสยังทิ้งคำพูดไว้ว่าพวกโซลเยอร์เช่นเขาเป็นได้แค่มอนสเตอร์ พร้อมทั้งโชว์ปีกสีดำข้างซ้ายที่งอกออกมาจากหลังเขา

"โซลเยอร์ไม่ใช่มอนสเตอร์นะ!"

แซ็คพยายามนึกถึงเกียรติภูมิและอุดมการณ์มากมายที่แองจีลเคยสั่งสอนเขาไว้ แม้จะเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตาแต่เขาก็ยังไม่อยากเชื่อว่าแองจีลจะทิ้งความภาคภูมิใจมากมายเหล่านั้นและเลือกเส้นทางเดียวกับเจเนซิสไปแล้วจริงๆ ไม่กี่เดือนต่อมา แซ็คได้เลื่อนชั้นเป็น 1st class เนื่องจากผลงานในสงครามวูไทตามที่แองจีลเสนอขอไว้ แม้จะเข้าใกล้เป้าหมายการเป็นวีรบุรุษไปอีกขั้น แต่การที่เพื่อนรักของเขาหันหลังให้องค์กรไปนั้นทำให้เขายิ้มไม่ออก

กองกำลังก๊อปปี้ของเจเนซิสออกอาละวาดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีก๊อปปี้ของแองจีลที่เป็นมอนสเตอร์มาสมทบ ครั้งที่พวกเจเนซิสออกอาละวาดในมิดการ์นั้นพวกเติร์กได้เข้ามาช่วยโซลเยอร์จัดการก๊อปปี้ได้ และแซ็คก็ได้พบกับเติร์กสาวสวยนามชิสเนย์ด้วย ชิสเนย์พูดเรื่องปีกว่ามันเป็นตัวแทนของอิสรภาพ ไม่ได้หมายถึงมอนสเตอร์สักหน่อย ทำให้แซ็ครู้สึกดีขึ้นบ้าง

แซ็ครู้จากเซฟิรอธว่าร่างกายของเจเนซิสผิดปกติและเกิดการเสื่อมสลาย เขาจึงพาตัวฮอลันเดอร์นักวิทยาศาสตร์ของชินระไปเพื่อรักษาอาการเสื่อมสลายให้เขา ฮอลันเดอร์เองก็เคืองชินระที่ไม่ยอมเลือกเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ เป็นสาเหตุให้พวกเขาร่วมมือกันล้างแค้นชินระ แซ็คได้พบกับแองจีลอีกครั้งในเตาปฏิกรณ์เขต 5 แองจีลเองก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีพิกลพิการเหมือนกับเจเนซิส เขามีปีกสีขาวข้างขวา ทั้งที่เคยภาคภูมิใจในเกียรติของโซลเยอร์แต่ความจริงที่ตัวเขาเองก็เป็นแค่มอนสเตอร์ไม่ผิดกับเจเนซิสนั้นทำให้แองจีลพังทลาย แซ็คพยายามบอกว่าปีกสีขาวไม่ใช่ปีกของมอนสเตอร์ มันเป็นปีกของเทวดาต่างหาก แต่แองจีลไม่ต้องการแบบนั้น

"ความฝันของเทวดาน่ะมีเพียงหนึ่งเดียว... นั่นคือการได้เป็นมนุษย์"

แองจีลเล่นงานแซ็คจนตกลงมายังสลัมเขต 5 เบื้องล่าง เขาหมดสติไปจนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก

"ฮัลโหล"

แซ็คลืมตาขึ้นก็พบตัวเขาอยู่บนแปลงดอกไม้ภายในโบสถ์ เบื้องหน้าเขาคือแอริธ เกนสโบรู สาวสวยผู้เลี้ยงดูดอกไม้พวกนี้มา แซ็ครู้สึกขอบคุณที่แอริธช่วยให้เขารู้สึกตัว จึงเสนอเดทหนึ่งครั้งเป็นการตอบแทน

แอริธใช้ชีวิตอยู่ใต้เพลตมาตลอด แซ็คเห็นดังนั้นก็อยากพาแอริธออกไปสู่โลกภายนอก เพราะอยากให้เธอได้รู้ว่าท้องฟ้านั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิด แม้จะมีภารกิจด่วนเข้ามาเรื่อยๆแต่แซ็คก็สัญญาว่าจะมาหาแอริธบ่อยๆ เขาเป็นหนุ่มอารมณ์ดีที่เที่ยวจีบสาวไปทั่ว แต่การได้พบแอริธเพียงวันเดียวก็ทำให้แซ็คเกิดแรงบันดาลใจและวาดภาพสิ่งที่เขาอยากทำในอนาคตไว้มากมาย ตอนที่เดินเที่ยวตลาดสลัมเขายังซื้อโบว์สีชมพูให้แอริธเป็นของขวัญที่ระลึกครบรอบหนึ่งวันที่พบกันด้วย

โลกภายนอกบริษัทของแซ็คสดใสขึ้น แต่เรื่องในองค์กรก็ยังคงขุ่นมัว แม้แองจีลจะแอบกลับมาช่วยเหลือแซ็คหลายครั้งและบอกว่าเขาจะทำหน้าที่โซลเยอร์ให้ถึงที่สุด แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วแองจีลคิดอย่างไร แถมแม้แต่เซฟิรอธยังเริ่มดูแปลกๆไปหลังจากที่เพื่อนทั้งสองของเขาตีตัวออกห่างชินระ หลังสิ้นสุดความขัดแย้งแต่ละครั้ง แซ็คที่ต่อสู้กับศัตรูที่เก่งกาจขึ้นเรื่อยๆอย่างยากลำบากจะถูกทิ้งกลางสมรภูมิที่ไม่เหลือใครอยู่เคียงข้าง ผิดกับตอนที่เขายังเป็นแค่ไอ้ลูกหมาที่สนุกกับการต่อสู้ร่วมกับเพื่อนๆทั้งแองจีลและโซลเยอร์ 2nd class คนอื่นๆ

ทุกคนหายไปไหนกันหมดนะ...

สืบทอดเกียรติภูมิ

ลาซาร์ดได้ข่าวเรื่องเจเนซิสกับฮอลันเดอร์จากแองจีล จึงส่งตัวแซ็คมาที่โมเดโอไฮม์พร้อมกับเส็ง และทหารอีก 2 นาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคลาวด์ สไตรฟ์ หนุ่มบ้านนอกจากนีเบิ้ลไฮม์ ด้วยความที่เป็นคนบ้านนอกเหมือนกันเขาจึงคุยถูกคอกับแซ็คเป็นอย่างดี ก่อนถึงโมเดโอไฮม์แซ็คสังเกตเห็นก๊อปปี้ของเจเนซิสป้วนเปี้ยนอยู่แถวโรงงานร้าง จึงแอบเข้ามาในโรงงานและพบกับเจเนซิสที่อาการเสื่อมสลายกำลังกำเริบหนัก คำพูดของฮอลันเดอร์ที่บอกว่าการรักษาโรคของเขาจะต้องใช้เซลล์ของเจโนวา และไม่มีใครรู้ว่าเจโนวาถูกเก็บอยู่ที่ไหนทำให้เขาบ้าคลั่งไป

"งั้นฉันก็จะยอมรับชะตากรรมอย่างเต็มใจ แต่โลกนี้จะต้องล่มสลายไปพร้อมกับฉัน!"

แซ็คเข้าต่อสู้และสามารถหยุดยั้งความบ้าของโซลเยอร์ในตำนานอย่างเจเนซิสลงได้ หลังความพ่ายแพ้ เจเนซิสกระโจนลงหุบเหวด้านล่างไปพร้อมกับความชิงชังต่อโลกใบนี้โดยไม่สนใจเสียงของแซ็คที่ย้ำให้เขาฟังอีกครั้งว่า "เราไม่ใช่มอนสเตอร์นะเฟ้ย! เราคือโซลเยอร์!"

แซ็คเดินทางต่อมาจนถึงโมเดโอไฮม์และพบกับแองจีลอีกครั้ง แองจีลได้รู้เรื่องชาติกำเนิดของเขาที่เกิดจากการทดลองของฮอลันเดอร์ เขาปฏิสนธิในครรภ์แม่ของเขาที่มีเซลล์เจโนวาอยู่ ซ้ำร้ายเขายังไม่เกิดการเสื่อมสลายอย่างเจเนซิส แองจีลจึงเรียกตัวเองว่ามอนสเตอร์ที่สมบูรณ์แบบ เขาได้แสดงพลังหลอมรวมมอนสเตอร์ที่เป็นก๊อปปี้ของเขาเข้าด้วยกันแล้วเข้าสู้กับแซ็ค เพื่อให้เพื่อนรักคนนี้ช่วยจัดการตัวเขาและทำลายจุดด่างพร้อยของเกียรติภูมิแห่งโซลเยอร์ไปพร้อมๆกัน

แซ็คต้องสู้กับแองจีลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาไม่สามารถนำพาเพื่อนผู้พังทลายคนนี้กลับมาได้อีกต่อไปแล้ว และตัวเองก็ยังมีคนที่ต้องกลับไปหาอยู่ แซ็คทุ่มฝีมือเต็มที่เอาชนะแองจีลได้ ก่อนตายแองจีลได้เอ่ยขอบคุณแซ็ค พร้อมมอบบัสเตอร์ซอร์ด ดาบอันเป็นตัวแทนเกียรติภูมิของเขาให้ "ขอให้ปกป้องเกียรติภูมิของนายไว้ตลอดไปนะ..."

แองจีลหมดลมหายใจไปแล้ว แต่คำสอนต่างๆก็ยังคงดังอยู่ในหัวแซ็คมาตลอด และบาดแผลรูปกากบาทจากการต่อสู้ที่แองจีลทิ้งไว้บนแก้มก็จะติดตัวเขาไปอีกนาน แซ็คกลับมาหาแอริธและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังมีแอริธที่คอยโอบกอดและแบ่งเบาความเศร้าทั้งหมดทั้งมวลนี้ไว้

เจเนซิสและแองจีลถูกกำจัด อีกทั้งฮอลันเดอร์ยังถูกจับกุมตัวได้ แซ็คกลายเป็นโซลเยอร์หัวแถวที่หลายคนคาดหวังกันว่าจะก้าวขึ้นมาออกนำเหล่าโซลเยอร์แทนแองจีล เขาเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนอาวุธมาใช้บัสเตอร์ซอร์ด แล้วออกนำเหล่าทหารโดยยึดคำสอนของแองจีลไว้เหนืออื่นใด

"จงยึดมั่นความฝันของตนเองไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้จงปกป้องเกียรติของโซลเยอร์อย่างสุดความสามารถ"

แก่นวิกฤติการณ์

แต่เรื่องก็ยังไม่จบดี เจเนซิสที่ทุกคนเคยคิดว่าตายไปแล้วนั้นยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งได้นำกองกำลังบุกเข้าจูน่อนและชิงตัวฮอลันเดอร์ที่ถูกชินระคุมขังอยู่ไปได้ เขารู้มาว่าเจโนวาถูกเก็บอยู่ในเตาปฏิกรณ์ไหนสักแห่ง จึงได้นำกองทัพก๊อปปี้บุกเข้าเตาปฏิกรณ์ทั่วโลก ชินระต้องกระจายกำลังโซลเยอร์ออกไปรับมือพวกก๊อปปี้ในที่ต่างๆ ในขณะเดียวกันลาซาร์ดก็หายตัวออกจากชินระไป สำหรับแซ็คถูกมอบหมายให้เดินทางไปที่นีเบิ้ลไฮม์ เขารู้ว่าจะต้องออกจากมิดการ์ไปเป็นเวลานานจึงแวะมาหาแอริธเพื่อทำเรื่องต่างๆที่เคยคั่งค้างไว้ เช่น ประกอบรถเข็นออกไปขายดอกไม้ด้วยกัน ตัวแอริธนั้นมีเรื่องที่อยากให้แซ็คช่วยทำมากที่สุดเพียงข้อเดียว นั่นคือเธออยากใช้เวลาอยู่กับเขาให้นานกว่านี้ เมื่อรู้แบบนั้นแล้วแซ็คก็สัญญาว่าเขาจะกลับมา แล้วจะออกไปขายดอกไม้ใต้ท้องฟ้าโปร่งด้วยกัน

แซ็คฝากให้เส็งช่วยดูแลแอริธ ก่อนกลับมายังตึกสำนักงานชินระ ในภารกิจเดินทางไปที่นีเบิ้ลไฮม์นี้เขาไปกับเซฟิรอธและยังได้ร่วมทีมกับคลาวด์อีกครั้ง ที่นี่คือบ้านเกิดของคลาวด์ แต่ดูท่าทางเขาไม่ค่อยยินดีกับการกลับมาที่นี่โดยที่ตัวเองยังเป็นแค่ทหารต๊อกต๋อยเท่าไหร่

ทีฟา ล็อคฮาร์ท เป็นไกด์ที่นำคณะเดินทางขึ้นไปบนภูเขานีเบิ้ลไฮม์ ภายในเตาปฏิกรณ์พวกเขาได้พบกับการทดลองนำมนุษย์มาอัดมาโคปริมาณมหาศาลยิ่งกว่าที่ใช้กับโซลเยอร์จนกลายเป็นมอนสเตอร์ไป เซฟิรอธเห็นการสร้างมอนสเตอร์พวกนี้แล้วก็สงสัยว่าโซลเยอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาก็เหมือนกับมอนสเตอร์ด้วยหรือเปล่า? แล้วยิ่งตัวเขาที่แตกต่างจากคนอื่นมากหมายความว่าเขาไม่ใช่มนุษย์อย่างนั้นรึ? แซ็คพยายามพูดเรียกสติไม่ให้เซฟิรอธเตลิดไปเหมือนคนอื่นๆ แต่เจเนซิสก็เข้ามาขัดจังหวะพร้อมเล่าเรื่องชาติกำเนิดของเซฟิรอธที่ถูกสร้างจากเซลล์ของเจโนวา

หลังจากนั้นเซฟิรอธก็หายตัวไป ปัญหาเดิมๆที่เคยคิดว่าเขาผ่านพ้นมันไปแล้วก็วนกลับมาหาอีก การเป็นโซลเยอร์มันไม่ต่างกับมอนสเตอร์จริงๆน่ะเหรอ? ชั้นไม่อยากยุ่งกับเรื่องค้นหาความจริงอะไรนั่น ขอชั้นแค่สู้ต่อไปเรื่อยๆไม่ได้รึไง? แต่พอมองไปที่บัสเตอร์ซอร์ดและนึกถึงการปกป้องเกียรติภูมิของโซลเยอร์ที่แองจีลเคยฝากฝังไว้ เขาก็เย็นใจลง

ทีฟาสืบข่าวมาบอกกับแซ็คว่าเซฟิรอธเก็บตัวอยู่ในห้องสมุดในคฤหาสน์ชินระ แซ็คตามลงมาก็พบกับเซฟิรอธที่กำลังอ่านเอกสารงานวิจัยเรื่องเจโนวาโปรเจ็คต์เพื่อไขข้อสงสัยเรื่องชาติกำเนิดของเขา เซฟิรอธบอกแซ็คว่าเขาอยากอยู่ตัวคนเดียว แล้วเขาก็หมกตัวอยู่ในนั้นนานถึง 7 วัน จากข้อมูลในเอกสารงานวิจัย ทำให้เซฟิรอธเข้าใจว่าตัวเขาถูกสร้างขึ้นจากเซลล์ของเจโนวา และเจโนวาคือเผ่าโบราณผู้มีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะปกครองดาวดวงนี้ นั่นทำให้เซฟิรอธตัดสินใจช่วงชิงดาวดวงนี้คืนมาจากน้ำมือมนุษย์ เพื่อ "แม่" ของเขา

ในที่สุดก็ถึงวันแห่งวิกฤตการณ์ เซฟิรอธบ้าคลั่งเผาเมืองนีเบิ้ลไฮม์และฆ่าผู้คนในเมืองทิ้ง เขามองมายังแซ็คขณะยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟแล้วหันหลังเดินออกไปหาเจโนวาซึ่งถูกผนึกอยู่ในเตาปฏิกรณ์แห่งนี้เอง

"ทำไมนาย....? เซฟิรอธ! ทำไมนายทำแบบนี้?"

แซ็คช่วยเหลือคนที่ยังพอช่วยได้ ก่อนวิ่งตามเซฟิรอธขึ้นภูเขานีเบิ้ลไฮม์ไป ทีฟาที่เข้ามาก่อนเพื่อล้างแค้นเซฟิรอธได้ถูกเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส เธอบอกว่าเธอเกลียดทั้งชินระและโซลเยอร์ที่มาทำลายบ้านเกิดทั้งที่พวกเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แซ็คในตอนนี้ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือการหยุดยั้งเซฟิรอธที่วิปลาสไปแล้ว

การต่อสู้ระหว่างแซ็คกับเซฟิรอธเป็นไปอย่างดุเดือด แม้จะเคยประมือกับสุดยอดโซลเยอร์อย่างเจเนซิสและแองจีลมาแล้ว แต่เซฟิรอธคือวีรบุรุษผู้ไม่อาจหาผู้ทัดเทียมเพียงหนึ่งเดียวของดาวดวงนี้อย่างแท้จริง แซ็คถูกเล่นงานกระเด็นออกมาจากห้องด้านใน แต่ก่อนที่เซฟิรอธจะพาเจโนวาออกจากแคปซูลที่ผนึกเธออยู่ คลาวด์ก็หยิบบัสเตอร์ซอร์ดของแซ็ค แทงเข้าด้านหลังเซฟิรอธ ความโกรธแค้นที่เซฟิรอธเผาทำลายบ้านเกิด อีกทั้งยังทำร้ายทีฟาเพื่อนวัยเด็กของเขาทำให้คลาวด์โกรธมาก เขาเข้าสู้กับเซฟิรอธด้วยพลังแฝงอันเหลือเชื่อก่อนจะเหวี่ยงเซฟิรอธตกลงไปยังก้นเตาปฏิกรณ์ได้สำเร็จ แต่ตัวเขาก็บาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไปพร้อมๆกับแซ็ค

ท่ามกลางสติที่เลือนราง แซ็คได้ยินเสียงโฮโจสั่งลูกทีมให้นำตัวเขาและคลาวด์ไปทดลองอะไรบางอย่าง แม้จะรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปแต่เขาก็ไม่เหลือแรงที่จะทำอะไรอีกแล้ว แซ็คหมดสติไปอีกครั้งก่อนจะตื่นขึ้นมาในอนาคตอันแสนไกล ในโลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง...
 

นายคือหลักฐานยืนยันการคงอยู่ของฉัน

เขาเจ็บใจที่ตนเองรับสืบทอดเกียรติภูมิจากแองจีลมาแล้ว แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ แซ็คแค้นใจในความไร้กำลังและความล้มเหลวของเขา แองจีลจึงต้องเข้ามาเตือนสติให้เขาสู้ต่อและเตือนเรื่องเกียรติภูมิของโซลเยอร์ จนแซ็คเห็นภาพตนเองเหยียบยืนอยู่บนผืนน้ำ มีขนนกสีขาวร่วงลงมาจากฟ้าด้านบนที่สว่างสดใส

เขาเองก็อยากได้ปีกแห่งอิสรภาพนั้นเหมือนกัน เพื่อไปให้ถึงยังท้องฟ้าใสด้านบนนั้น

แซ็คคืนสติขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในแคปซูลทดลองของชินระใต้คฤหาสน์นีเบิ้ลไฮม์ ส่วนคลาวด์อยู่ในหลอดข้างๆ เขาอัดนักวิจัยที่ถูกทิ้งให้ดูแลแซ็คกับคลาวด์เพียงคนเดียวจนสลบไปแล้วพาคลาวด์หนีออกมา คลาวด์รับพิษมาโคเข้าไปมากจนสติขาดไป แซ็คจึงจับคลาวด์เปลี่ยนชุดที่เปื้อนมาโคออกเปลี่ยนเป็นชุดโซลเยอร์ที่อยู่ในตู้แถวๆนั้น แล้วพาคลาวด์ฝ่ากองทหารที่ออกมาล่าตัวผู้หลบหนีออกมา

แซ็คไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาต่อสู้เพื่อชินระมาตลอด แต่ตอนนี้ตัวเขาและคลาวด์กลับกลายเป็นตัวทดลองที่หลบหนีและตกเป็นเป้าการตามล่าของชินระ เขานึกถึงความปรารถนาของแอริธที่ต้องการอยู่กับเขานานๆแล้วก็ตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับมายังมิดการ์ แต่มันไกลจากเมืองบ้านนอกแห่งนี้ครึ่งโลก โชคดีที่เติร์กตัดสินใจช่วยเขาและให้มอเตอร์ไซค์ให้แซ็คใช้เดินทางมา แซ็คต้องคอยปกป้องคลาวด์ทั้งจากกองทหารชินระและกองกำลังของเจเนซิส พวกเจเนซิสต้องการ S-Cell ซึ่งเป็นเซลล์ที่สมบูรณ์แบบจากเซฟิรอธเพื่อหยุดอาการเสื่อมสลายของเขา แต่ตอนนี้เซฟิรอธก็ตายไปแล้ว และเซลล์ของแซ็คที่ผ่านการทดลองใส่ S-Cell ของเซฟิรอธมาก็ใช้ไม่ได้ เขาเชื่อว่าคลาวด์เป็นคนสุดท้ายที่มี S-Cell บริสุทธิ์ หากได้เซลล์ของคลาวด์จะช่วยให้เขาหายจากอาการเสื่อมสลายได้

แซ็คมาถึงกองกาก้าโดยไม่รู้ตัว เขาดีใจที่ได้กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้งและลงมายังเมืองเพื่อหาพ่อแม่เขา แต่ชิสเนย์ก็ออกมาเตือนให้แซ็คระวังตัวมากกว่านี้เพราะพวกทหารอาจดักรออยู่ที่บ้าน ตอนนี้พ่อแม่ของเขาอยู่ในความดูแลของเติร์ก แซ็คจึงฝากขอให้ชิสเนย์ช่วยดูแลพ่อแม่เขาด้วย

ที่นี่เขาได้พบกับฮอลันเดอร์ที่ฉีดเซลล์ของเจเนซิสเข้าไปในร่างทำให้เกิดการเสื่อมสลาย เขาต้องการ S-Cell ของคลาวด์แต่แซ็คก็เข้าขัดขวางและจัดการฮอลันเดอร์พร้อมพวกก๊อปปี้ของเจเนซิสฝูงหนึ่งลงได้ ในการต่อสู้นี้ชายหนุ่มที่ดูคล้ายแองจีลได้เข้ามาช่วยเขาด้วย เขาคือลาซาร์ดที่หายตัวไปนั่นเอง

แม่ของลาซาร์ดซึ่งเป็นชู้รักของประธานชินระถูกประธานทอดทิ้ง ลาซาร์ดต้องการล้างแค้นชินระจึงร่วมมือกับฮอลันเดอร์ แต่ก็ถูกฉีดเซลล์ของแองจีลเข้ามาในร่าง และด้วยความรู้สึกของแองจีลทำให้ความแค้นที่เขามีต่อชินระค่อยๆหายไป ตอนนี้เขาเหลือเพียงความรู้สึกต้องการช่วยเหลือโลก ราวกับแองจีลมีชีวิตอยู่ในตัวเขา แซ็คบอกว่าเขายังคงมีความฝันที่จะเป็นวีรบุรุษอยู่ (ซึ่งลาซาร์ดก็ยังคงคิดว่ามันเว่อร์เกินตัวเหมือนเดิม) ถ้าเขาหยุดยั้งเจเนซิสได้อย่างน้อยเขาก็คงจะดูเหมือนวีรบุรุษขึ้นนะ แซ็คเห็นเจเนซิสถือแอปเปิ้ลของบาโนร่าติดตัวอยู่ตลอดจึงเชื่อว่าเจเนซิสคงเดินทางไปยังบาโนร่าเพราะที่นั่นคงมีอะไรสักอย่างที่เขาต้องการ

ทั้งสองพร้อมด้วยคลาวด์มายังบาโนร่าที่ถูกชินระถล่มยับเยินไปรอบหนึ่งก็พบไลฟ์สตรีมพวยพุ่งออกจากหลุมขนาดใหญ่ด้านหลังหมู่บ้าน แซ็คฝากลาซาร์ดช่วยดูแลคลาวด์แล้วเขาก็เข้ามายังใต้ดินของเมืองที่เป็นเหมืองมาโคเก่าของชินระและได้พบกับเจเนซิสอีกครั้ง

เจเนซิสบอกว่าแซ็ครับสืบทอดเกียรติภูมิมาจากแองจีล และในร่างของเขายังมีส่วนหนึ่งของเซฟิรอธอยู่ การพบกับแซ็คครั้งนี้จึงเหมือนกับเพื่อนรักทั้งสามคน (เจเนซิส-แองจีล-เซฟิรอธ) ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เขาพบมาทีเรียขนาดมหึมาที่ใต้ดินบาโนร่านี้ มันสามารถดึงพลังของดวงดาวทำให้เขาจุติเป็นเทพพิทักษ์ได้ และเขาต้องการพาโลกไปสู่จุดสิ้นกาลเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้ทุกคนได้พบความสุขสูงสุดตามที่บันทึกไว้ในเลิฟเลส วรรณกรรมที่เขายึดถือ

"แกไม่ใช่มอนสเตอร์! แกเป็นพวกเดียวกับเรา!"

แซ็คพยายามเรียกสติเจเนซิสอีกครั้ง แต่ก็ไม่ทันการณ์ เจเนซิสรับพลังของดวงดาวแล้วกำเนิดอวตารขนาดมหึมาที่จะกวาดล้างทุกคนกลับไปเป็นไลฟ์สตรีมตามที่เขาปรารถนา แต่แซ็คก็สามารถเอาชนะเจเนซิสอวตารได้

ท่ามกลางไลฟ์สตรีมปริมาณมหาศาลที่พวยพุ่งออกมาหลังอวตารสลายร่างไปนั้น เจเนซิสได้พบกับเจตจำนงของดวงดาว สีหน้าของเธอราวกับจะบอกเขาว่าหน้าที่ของเขายังไม่จบสิ้นก่อนจะส่งเขากลับมาหมอบลงตรงหน้าแซ็ค

ตอนนี้เป็นยามรุ่งสาง แซ็คลากตัวเจเนซิสขึ้นมาด้านบนก็พบว่าลาซาร์ดช่วยสู้กับพวกชินระเพื่อปกป้องคลาวด์จนจบชีวิตลง เขาพบจดหมายที่แอริธฝากมอนสเตอร์ก๊อปปี้ของแองจีลที่มาอาศัยอยู่ในโบสถ์มาให้ก็รู้ความจริงว่าตั้งแต่ตอนเขามานีเบิ้ลไฮม์นั้นเวลาผ่านไปถึง 4 ปี เธอได้ส่งจดหมายมาถึง 89 ฉบับแล้ว และนี่คงเป็นฉบับสุดท้าย

"สี่ปีเรอะ? ...ที่ว่าฉบับสุดท้ายนี่มันหมายความว่าไงกัน!?"

เขาต้องการกลับมาหาแอริธอย่างสุดใจเพื่อบอกให้เธอรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แซ็คพาคลาวด์เดินทางต่อ ขณะที่เจเนซิสถูกทิ้งไว้ที่บาโนร่า ตอนนี้อาการเสื่อมสลายของเจเนซิสถูกไลฟ์สตรีมชำระล้างไปและหมอนี่เข้าใจหน้าที่ของตัวเองดีแล้วแซ็คจึงคิดว่าไม่มีอะไรน่าห่วงอีกต่อไป

แซ็คโบกรถพาคลาวด์ออกเดินทางไปยังมิดการ์ ระหว่างทางเขาเล่าถึงเรื่องที่เขาคิดจะทำหลังจากไปถึงมิดการ์แล้ว เขาคิดว่าคงเอาความสามารถในการต่อสู้นี้ไปใช้ประโยชน์ เช่นเป็นทหารรับจ้างด้วยกันกับคลาวด์ คลาวด์นั้นยังคงไม่มีสติสัมปชัญญะ แต่แซ็คก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งเขา

"ก็เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เรอะไง?"

เมื่อมาถึงชานเมืองมิดการ์กองทหารชินระนับหมื่นพันที่มาตามล่าผู้หลบหนีได้เข้าล้อมแซ็คมืดฟ้ามัวดิน เขานำตัวคลาวด์มาซ่อนในซอกหิน ก่อนออกมาเผชิญหน้ากับกองทหารของชินระ แล้วเริ่มต้นการต่อสู้ที่ไม่เห็นแววชนะเพื่อแลกกับสิ่งที่เรียกว่าอิสรภาพของพวกเขา

"อิสรภาพนี่ราคาแพงจังนะ"

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างยาวนาน กองทัพชินระอันยิ่งใหญ่ขนทหารพร้อมสุดยอดยุทโธปกรณ์มาเต็มอัตราศึกเพื่อฆ่าเขา แม้จะไร้หนทางชนะแต่แซ็คก็ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้นอกจากสู้ต่อไปเรื่อยๆ เขานึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา นึกถึงเพื่อนๆของเขา แต่การต่อสู้อย่างหนักทำให้สติของเขาเองก็พร่าเลือนลงไปทุกที ในที่สุดแม้แต่ภาพของแองจีลผู้มอบอุดมการณ์ให้แก่เขา และคลาวด์เพื่อนรักผู้ร่วมชะตากรรมกับเขาก็ค่อยๆเลือนหายไป

"ฮัลโหล"

แต่เสียงของแอริธยังคงก้องอยู่ในหัวเขา แซ็คใช้พลังหมดทั้งชีวิตยื้อการต่อสู้แม้ไม่เห็นทางชนะ คิดแต่เพียงว่าเขายังตายตอนนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับเจเนซิสที่มีหน้าที่สำคัญที่ต้องสานต่อ ทำให้การต่อสู้ของเขายังไม่จบ การต่อสู้ดำเนินไปนานแสนนานจนฟ้ามืดลงอีกครั้ง เหล่าทหารนับพันตายเกลื่อนสมรภูมิ แซ็คพยุงร่างอันบอบช้ำแสนสาหัสเข้าสู้กับทหารสามคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ จนกระทั่งหมดแรงเฮือกสุดท้ายล้มลงและถูกยิงซ้ำ

ชินระได้รับรายงานว่าผู้หลบหนีถูกกำจัดแล้วก็ถอนกำลังกลับไป คลาวด์คืนสติขึ้นแล้วลากตัวออกจากชะง่อนหินเข้ามาหาแซ็คที่นอนจมกองเลือด แซ็คใช้พลังเฮือกสุดท้ายมอบบัสเตอร์ซอร์ดให้แก่คลาวด์เพื่อขอให้เขาเป็นผู้สืบทอดเกียรติภูมิของโซลเยอร์ต่อไป

"นายจะต้อง... มีชีวิตอยู่... เป็นหลักฐานยืนยันการคงอยู่ของชั้น.... เกียรติภูมิของชั้น... ความฝันของชั้น... ขอมอบให้นายทั้งหมด"

หลังคลาวด์รับบัสเตอร์ซอร์ดไปแล้วแซ็คก็หมดลมหายใจพร้อมรอยยิ้ม ฟ้าสว่างขึ้นอีกครั้ง คลาวด์เดินทางมายังมิดการ์เพื่อสานต่อเรื่องราวต่อจากนี้ไป ในขณะที่แซ็คเริ่มออกเดินทางจากที่แห่งนี้...

นี่ชั้นเป็นวีรบุรุษแล้วใช่มะ?


Conceptual Design & Early Materials

  • ในบทตอนแรกกำหนดให้คลาวด์สร้างบุคลิคปลอมขึ้นมาเองก่อนที่จะให้บุคลิคดังกล่าวมาจากตัวตนของคนๆหนึ่งภายหลัง อย่างไรก็ดีพล็อตที่จะให้แอริธมองเห็นคนรักเก่าในตัวคลาวด์นั้นมีมาก่อนคิดบทแซ็คเสียอีก (พล็อตหนึ่งกำหนดให้คนรักที่ว่าคือเซฟิรอธ)

  • ดีไซน์ของแซ็คไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากเพราะเขาเป็นตัวละครหลังๆที่ถูกคุณโนมุระออกแบบขึ้นมา

ดีไซน์แรกของแซ็คใน FFVII

  • คุณโนจิม่าบอกว่าจริงๆตอนต้นของ Advent Children เขาอยากให้แซ็คออกมาด่าคลาวด์ที่ทำตัวมืดมนด้วย

  • คุณฮาจิเมะ ทาบาตะ เคยเปิดเผยสัมภาษณ์ลง The 3rd Birthday Twitter ว่าเนื้อเรื่องของ Crisis Core ถูกตัดออกไปเยอะ เพราะยาวจนไม่สามารถบรรจุลง UMD ได้พอ โดยเฉพาะตอนที่แซ็คพาคลาวด์หนีออกจากนีเบิลไฮม์ ซึ่งจะเพิ่มรายละเอียดความสัมพันธ์ของแซ็คกับคลาวด์มากขึ้น แต่ทีมงานเห็นว่าอยากให้เน้นเรื่องภารกิจในฐานะโซลเยอร์ของแซ็คมากกว่า

 


Trivia

  • นามสกุล Fair ถูกเปิดเผยครั้งแรกใน Crisis Core หมายถึง Fair Weather (อากาศดี) แสดงถึงความสดใสของแซ็คซึ่งทีมงานตั้งให้ตรงข้ามกับ Cloud (เมฆ)

  • หลังคลาวด์ได้ความทรงจำคืนมาแล้วกลับมาที่ห้องทดลองใต้ดินคฤหาสน์ชินระจะได้ดูเหตุการณ์ตอนที่แซ็คช่วยคลาวด์หนีออกมาและถูกทหารชินระยิงตาย ภายในห้องทดลองจะมีร่องรอยเขียนที่แคปซูลว่า "เราหนีออกจากที่นี่กันเถอะ" ที่แคปซูลของคลาวด์ และ "ตอนให้อาหารนี่แหละลงมือกันเลย" บนแคปซูลของแซ็ค เป็นวิธีที่แซ็คแอบใช้สื่อสารกับคลาวด์ตอนอยู่ในแคปซูลทดลอง และในห้องสมุดมีรายงานผู้หลบหนีให้อ่าน 4 ฉบับ เล่าถึงผู้หลบหนีสองคน โดยแทนแซ็คเป็น A และคลาวด์เป็น B, A เป็นอดีตโซลเยอร์ ไม่พบผลข้างเคียงของเจโนวา ส่วน B มีปฏิกิริยาต่อเซลล์เจโนวา, A ถูกฆ่าตายส่วน B หนีไปขณะทำการจับกุม, ปัจจุบันไม่ทราบที่อยู่ของ B แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะตามล่าตัวต่อไปเพราะเสียสติไปแล้ว (และสุดท้าย B ก็กลับมาถล่มองค์กรแก :P)

  • เครื่องแบบมาตรฐานของโซลเยอร์ 2nd class คือชุดสีแดงดังที่เห็นในภาคหลัก แต่ทีมงานให้แซ็คแต่งม่วงเพราะชุดสีแดงคงไม่เข้ากับเขาเท่าไหร่ และใน Crisis Core พวก 2nd class ก็แต่งชุดม่วงด้วย

  • เตาปฏิกรณ์ที่กองกาก้าระเบิดเมื่อ 3 ปีก่อน FFVII นั่นคือช่วงที่แซ็คถูกดองโหลมาโคอยู่ แต่ใน Crisis Core ตอนที่แซ็คกลับมากองกาก้ากลับไม่ตกใจเลยสักนิดที่บ้านเกิดเขาเละเทะแบบนี้

  • ในภาค Crisis Core ยังมีรายงานวิจัยเพิ่มเติม โดยรายงานกรณีศึกษาตัวอย่างล้มเหลวระบุว่าแซ็คไม่ได้รับผลจากการทดลองเพราะร่างกายโซลเยอร์ทนทานต่อเซลล์ของเจโนวา และในไดอารี่นักวิจัยยังเล่าว่าเส็งขอคุยกับโฮโจหลายครั้งแต่ก็โดนตะเพิดออกมาตลอด

  • พวกเติร์กได้เงินเดือนมากกว่าโซลเยอร์อย่างแซ็คซะอีก (เพราะทำงานที่ไม่ค่อยมีคนอยากทำ) แต่ก็ลือกันว่าที่โซลเยอร์ได้เงินเดือนน้อย เป็นเพราะลาซาร์ดเอางบไปแอบสนับสนุนฮอลันเดอร์ให้ก่อกบฏต่อชินระ

  • ตอนที่แซ็คเข้าไปทดลองใช้ซิมูเลชั่นและทำเครื่องพัง ค่าซ่อมแพงมาก เขาโดนโฮโจสั่งตัดเงินเดือน 20% 10 ปี ตอนที่สามโซลเยอร์ทำเครื่องพังนั้นค่าซ่อมเท่ากับเงินเดือนของแซ็ค 24 เดือน แถมกระเป๋าตังค์เขายังแฟ่บกว่าเจ้าเด็กหัวขโมยในสลัมซะอีก เป็นโซลเยอร์ที่จนจริงๆ

  • แองจีลเรียกแซ็คว่าเจ้าลูกหมา เพราะท่าทางว่อกแว่กอยู่ไม่สุขของเขา

  • แซ็คมักฝึกฝนตัวเองด้วยการทำสควอท (ลุกนั่ง) และเขาก็เก่งจนแข่งสควอทชนะโซลเยอร์คนอื่นๆด้วย ลาซาร์ดเคยแซวตอนแซ็คทำภารกิจสำเร็จว่าเขานึกว่าแซ็คเก่งแต่เรื่องสควอทซะอีก เขาแนะนำให้คลาวด์เคลื่อนไหวตัวแก้เมารถจากนั้นก็ทำสควอทให้ดู แล้วคลาวด์ก็เอาไปแนะนำยุฟฟี่ต่อ ตอนที่คลาวด์รวบรวมชุดแต่งหญิงเขาต้องแข่งสควอทกับนักมวยในยิมด้วย

  • ตอนพักร้อนที่คอสตาเดลโซล แซ็คใช้ร่มชายหาดเป็นอาวุธจัดการพวกก๊อปปี้ได้ด้วยนะ

  • ใน 10th Ultimania บอกว่าแม้แซ็คจะเป็นคนที่ทำดีกับสาวๆไปทั่ว จนแอริธอาจรู้สึกหึงนิดๆ แต่ความรักของแอริธที่มีให้เขาอย่างจริงใจก็เป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรทดแทนได้สำหรับเขา

  • แซ็คมีแฟนคลับด้วยนะ หัวหน้าแฟนคลับก็คือสาวรีเซ็ปชั่นนิสต์คนสวยที่แซ็คไปคุยบ่อยๆนั่นหละ ชิสเนย์เป็นหนึ่งในแฟนคลับใช้ชื่อว่า "Black Suit" และคอยให้ข้อมูลหายากกับคลับ ว่ากันว่าการที่เธอเข้าร่วมคลับนี้เป็นความต้องการของตัวเธอเอง ไม่ใช่หน้าที่ของเติร์ก วิธีร่วมคลับนี้แซ็คต้องคุยกับชิสเนย์บนดาดฟ้าจูน่อนตอนที่พวกเจเนซิสบุก แล้วกลับมาคุยกับรีเซ็ปชั่นนิสต์หน้าตึกชินระ แต่เปิดรับสมาชิกได้เพียงแชปเตอร์เดียวแซ็คก็ตาย -*- (ข่าวชินระแจ้งว่าแซ็คตายตั้งแต่เหตุการณ์นีเบิ้ลไฮม์) และอีกหลายปีต่อมาคลับต้องปิดตัวด้วยปัญหาทางการเงิน

  • หลังแซ็คถูกหมายล่า ชิสเนย์เป็นคนดูแลพ่อแม่ของแซ็ค ซึ่งทั้งคู่ก็ขอให้เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย สำหรับชื่อจริงของชิสเนย์นั้นเราจะเป็นคนตั้งเองใน Before Crisis แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้บอกชื่อจริงให้แซ็ครู้

  • นอกจาก Crisis Core แล้ว แซ็คยังเป็นตัวเอกใน OVA Last Order: Final Fantasy VII ที่ออกมาพร้อม Advent Children ชุด limited เนื้อเรื่องพูดถึงเหตุการณ์ตอนเผานีเบิ้ลไฮม์ตัดฉากสลับกับตอนที่แซ็คพาคลาวด์หนีออกจากห้องทดลองมา แต่หลายๆฉากที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาคหลักได้รับเสียงตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ ทีมงานจึงตัดสินใจทำ Crisis Core อิงตามแบบภาคเดิม

  • ใน Before Crisis แซ็คปรากฏตัวใน episode 8 เขารับภารกิจถล่มรังของอวาลันช์ที่ไอซิเคิล แม้แซ็คจะสามารถทำลายรังพวกมันได้สำเร็จ แต่เพื่อนโซลเยอร์เซบาสเตียนและเอสไซก็ถูกจับตัวไปและเสียชีวิตในภารกิจนี้ DMW cut scene ใน Crisis Core จะมีตอนที่แซ็คและเส็งกลับมาเยี่ยมหลุมศพของทั้งสองคนด้วย

  • ก่อนออกปฎิบัติภารกิจ ทั้งใน Before Crisis และ Crisis Core แซ็คมักบอกกับเพื่อนร่วมทีมว่า "เราทั้งหมดจะต้องมีชีวิตรอดกลับมา" (แต่พูดทีไรมีคนตายทุกที)

  • แซ็คมีเพื่อนโซลเยอร์ 2nd class คนสนิทชื่อคันเซลที่คอยแนะนำเรื่องต่างๆให้แซ็คที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา แม้แซ็คจะหายสาบสูญไป 4 ปี แต่คันเซลก็ยังคงเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และยังส่งเมล์มาเตือนเรื่องกองทหารนับหมื่นพันที่ชินระส่งมาสังหารแซ็คด้วย "ฉันได้ยินมาว่าตัวทดลองสองคนหนีออกมาจากนีเบิ้ลไฮม์ นายคือหนึ่งในนั้นใช่ไหม แซ็ค? ถ้าใช่ก็ระวังไว้ด้วยนะ ตอนนี้ชินระรวมพลทหารมาทั้งกองทัพเลย พวกทหารนับหมื่นพันมันจะมาจับตัวนาย บ้าเอ๊ย! ทำไมนายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยฟะ? ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นศัตรูของชินระไปแล้ว แต่ฉันอยากให้นายกลับมา รอดกลับมาให้ได้นะเพื่อน สัญญากับฉันนะ" ...และนี่เป็นเมล์ฉบับสุดท้ายที่แซ็คจะได้รับตามเนื้อเรื่อง

  • ใน Advent Children Complete แซ็คออกมาช่วยเชียร์คลาวด์ให้เอาชนะเซฟิรอธด้วย "จะไปกลัวอะไรเล่า นายเคยชนะหมอนี่มาแล้วนี่นะ" ตอนที่คลาวด์บาดเจ็บปางตายและหลุดเข้ามาในไลฟ์สตรีมนั้น แซ็คที่อยู่กับแอริธบอกเขาว่า "นี่ยังไม่ใช่ที่ๆนายควรมาเฟ้ย"

  • ตอนจบ Advent Children Complete คลาวด์พาเดนเซลมายังหลุมศพของแซ็คที่ชานเมืองมิดการ์ แล้วบอกกับเขาว่า "ที่แห่งนี้เป็นที่ๆวีรบุรุษเริ่มออกเดินทาง"

  • ในภาค International มีไอเท็มพิเศษหลายอย่างที่เพิ่มเข้ามาและสามารถดูภาพได้ หากไปบ้านแซ็คในกองกาก้าแล้วสำรวจตู้ด้านซ้ายมือจะพบจดหมายที่แซ็คส่งถึงพ่อแม่เมื่อ 7 ปีก่อน

(เนื้อหาภายในจดหมายของแซ็ค)

 

"พ่อครับ แม่ครับ

สบายดีหรือเปล่า? ขอโทษด้วยที่ผมออกจากบ้านไปโดยไม่บอกก่อน ความจริงก็คือผมอยากจะเป็นโซลเยอร์ ผมคิดว่าถ้าบอกเรื่องนี้พ่อกับแม่คงเป็นห่วง ตอนนี้ฝันของผมเป็นจริงแล้วและผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด

ป.ล. ผมมีแฟนแล้วนะ

แซ็ค"

 

<กลับไปหน้าหลัก>


Web Content by Shiryu
This site is best viewed in Firefox with a resolution of 1024x786