Tseng

ツォン


เพศ : ชาย
วันเกิด : ไม่ทราบ
อายุ : ไม่ทราบ
กรุ๊ปเลือด : ไม่ทราบ
สถานที่เกิด : ไม่ทราบ  
ส่วนสูง : ไม่ทราบ
อาวุธ :
ปืน

     

ก่อนยุคโกลาหล

เส็งเข้าร่วมเป็นเติร์กของชินระตั้งแต่ยังหนุ่ม งานที่ทำหลายครั้งเป็นงานป่าเถื่อนและโหดเหี้ยมอย่างที่ตัวเส็งเองไม่ชอบ แต่เขาก็เชื่อว่าเติร์กเป็นหน่วยงานที่ปราณีเป็นลำดับต้นๆของชินระแล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยปฏิบัติกับ อิฟาลน่า หญิงเผ่าเซทราที่ชินระนำตัวมาทดลองอย่างโหดเหี้ยม เพื่อให้เธอยอมทำตามคำสั่งของชินระ แต่นั่นทำให้เธอบาดเจ็บสาหัส และต้องพาลูกสาวเพียงคนเดียวหนีออกมาจากชินระก่อนสิ้นชีวิตลง

เหตุการณ์นี้ทำให้เส็งเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง เขาให้ความสำคัญกับคนที่ปฏิบัติด้วยทุกครั้ง และคอยปรามไม่ให้ลูกน้องกระทำเกินกว่าเหตุอยู่บ่อยๆ

แล้วเขาก็ถูกมอบหมายให้ค้นหาเด็กผู้หญิงชาวเซทราลูกสาวของอิฟาลน่า และพาตัวมายังชินระ เพื่อให้เธอได้นำพาชินระไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญาดังคำเล่าขาน แม้จะรู้สึกผิดกับอิฟาลน่าและลูกสาวของเธอ แต่เขาก็ต้องทำหน้าที่นี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เส็งสืบพบว่าเด็กคนนี้คือแอริธ เกนสโบรู ซึ่งตอนนี้ถูกเลี้ยงดูโดยหญิงหม้ายอยู่ในสลัมเขต 5 แต่เขาก็ทำได้เพียงเฝ้าดูอยู่ห่างๆ เพราะตระหนักว่าคนที่เป็นด้านมืดของบริษัทอย่างเขา ไม่คู่ควรที่จะเข้าใกล้คนสูงค่าเช่นเธอที่เป็นผู้สืบทอดสายเลือดเซทราคนสุดท้ายของโลก

แล้วเวลาก็ผ่านไปวันแล้ววันเล่า หนูน้อยแอริธได้เข้ามาทักทายเส็ง เพราะเธอเชื่อว่าคนๆนี้คอยเฝ้าดูแล และปกป้องเธอจากชินระที่เธอหวาดกลัว

"ขอบคุณที่ขยันทำงานมาตลอดนะคะ คุณคอยปกป้องหนูใช่ไหมล่ะคะ?"

แม้จะเป็นโอกาสดีที่จะชวนเธอมาร่วมด้วย แต่เส็งกลับซื่อสัตย์กับตัวเองแล้วพูดความจริงทั้งหมดให้เธอฟังว่าเขามาจากชินระ และต้องการนำตัวแอริธกลับไป แม้จะพยายามบอกให้แอริธรู้ว่าพลังของเธอเป็นสิ่งวิเศษที่สามารถนำพาผู้คนบนโลกนี้ไปยังดินแดนแห่งพันธะสัญญาเพื่อความสุขของทุกคน แต่แอริธไม่ต้องการกลับไปหาชินระ และเธออยากเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดา

เส็งยอมรับในการตัดสินใจของเธอ และคอยเฝ้าคุ้มครองแอริธจากคนที่ต้องการพลังของเธอ ทั้งจากชินระ และกลุ่มต่อต้านที่ชื่ออวาลันช์ เขาเชื่อว่าวันหนึ่งแอริธจะต้องกลับมา และเส็งได้แต่เฝ้ารอคอยให้ถึงวันนั้น

แม้ชินระจะมีด้านมืดที่น่าเกลียดชัง แต่เส็งก็ได้เห็นสิ่งดีๆรวมทั้งได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะจากเวอร์ด็อท ชายผู้เป็นหัวหน้าทีมเติร์ก ที่สมาชิกเติร์กทุกคนให้ความเชื่อมั่น แต่เขาก็ขัดแย้งกับเวอร์ด็อทเรื่องอุดมการณ์ในการทำงานอยู่บ่อยๆ เพราะเส็งเชื่อว่าการปกป้องชีวิตของผู้คนคือภารกิจที่สำคัญที่สุด ในขณะที่เวอร์ด็อทต้องการให้เติร์กทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของชินระเป็นอันดับแรก

ครั้งหนึ่งเส็งเคยไปตรวจสอบเรือขนอาวุธที่นำอาวุธของชินระออกขายในตลาดมืด เขาเลือกที่จะช่วยชีวิตของทหารชินระที่ถูกพ่อค้าเล่นงานจนปางตาย มากกว่าเลือกตามอาวุธคืนเพื่อไม่ให้ความลับขององค์กรรั่วไหล ตัวเส็งเองเข้าใจว่าเขาทำผิดต่อบริษัทไปแล้ว แต่ชินระก็ให้โอกาสเขาแก้ตัวด้วยการไปตามทำลายอาวุธและข้อมูลที่รั่วออกไป และเวอร์ด็อทยังฝากคำที่เป็นคติประจำใจในการทำงานของเส็งมาจนปัจจุบันว่า

"จงทิ้งความกลัวไปซะเส็ง จงกอบกู้เกียรติภูมิของเธอมาด้วยสองมือนั้นอีกครั้ง เติร์กจะต้องปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม"

ตอนที่เส็งบุกเรือขนอาวุธเพื่อทำลายข้อมูลนั้น เขาโดนระเบิดและกรอบเหล็กร่วงลงมาขังไว้ แต่เวอร์ด็อทกลับเลือกเข้ามาช่วยเขาแทนการทำหน้าที่ที่ชินระมอบหมาย ทั้งที่เวอร์ด็อทเคยสอนว่าจงทำทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจลุล่วง แต่เขากลับเลือกที่จะช่วยลูกน้องจนถูกไฟลวกเกิดเป็นแผลเป็นที่ใบหน้า

การทำหน้าที่ให้ลุล่วงก็สำคัญ แต่ถ้าทำงานสำเร็จโดยไม่ต้องสูญเสียอะไรไปเลยจะยิ่งดีกว่าเสียอีก ตลอดช่วงเวลาการทำงานที่ผ่านมาเส็งต้องต่อสู้กับความขัดแย้งสองอย่างนี้มาตลอด เขาต้องการปกป้องคนอื่น ในขณะเดียวกันก็ต้องทำหน้าที่ของเติร์กให้ลุล่วงไปด้วย...

เติร์กปฏิวัติ

สถานะของเติร์กมาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเวอร์ด็อทพบว่าผู้นำของอวาลันช์ กลุ่มต่อต้านชินระคือเฟลิเซีย ลูกสาวของตนเอง ทำให้เวอร์ด็อทตัดสินใจหันหลังให้ชินระเพื่อปกป้องลูกสาว แม้จะปฏิบัติตามคำสั่งของชินระอย่างเคร่งครัดมาตลอด แต่เมื่อถึงคราวต้องเลือกระหว่างครอบครัวและหน้าที่แล้วเขาเลือกครอบครัวอย่างไม่ลังเลใจ ซึ่งนั่นคือเวอร์ด็อทที่เส็งรู้จักดี เวอร์ด็อทเคยสูญเสียครอบครัวไปครั้งหนึ่งในเหตุการณ์ทำลายเมืองคาล์ม และครั้งนี้เขาไม่อยากสูญเสียครอบครัวไปอีก

พวกเติร์กตัดสินใจช่วยเหลือเวอร์ด็อททำให้ประธานชินระออกคำสั่งทำลายล้างเติร์กทันที เวอร์ด็อทถูกกองทหารชินระจับตัวได้กลางทะเลทรายโคเรล และถูกตัดสินประหารชีวิต พวกเติร์กจึงต้องรีบเข้าไปชิงตัวเวอร์ด็อทออกมา เส็ง และเติร์กอีกสองคนคือเรโนและรู้ด ต้องฝ่ากองทหารหุ้มเกราะจำนวนมหาศาลเพื่อบุกเข้าไปชิงตัวเวอร์ด็อท แต่ทหารก็กรูเข้ามาไม่หยุดหย่อน เรโนและรู้ดถูกเล่นงานจนหมอบไป แต่เส็งก็นึกถึงสิ่งที่เวอร์ด็อทสั่งสอนไว้ และครั้งนี้พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อเวอร์ด็อทด้วยเจตจำนงและเกียรติภูมิของเติร์กตามที่ตัวเวอร์ด็อทได้ฝากฝังไว้ ด้วยแรงใจครั้งนี้ทำให้เส็งสามารถจัดการทหารหุ้มเกราะจำนวนมหาศาลที่ล้อมพวกเขาอยู่ได้จนหมด

แล้วพวกเขาก็ชิงตัวเวอร์ด็อทและลูกสาวออกจากที่คุมขังได้สำเร็จ แต่ขณะหนีออกมาก็ถูกกองทหารล้อมไว้อีกครั้ง หนนี้ประธานยื่นข้อเสนอว่าจะเลิกตามล่าเติร์ก แลกเปลี่ยนกับการที่เวอร์ด็อทและเฟลิเซียจะต้องถูกกำจัด ซึ่งแน่นอนว่าพวกเติร์กไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ แต่เส็งกลับลั่นปืนสังหารเวอร์ด็อทและเฟลิเซียอย่างไม่ลังเลใจ แล้วเส็งก็หอบร่างของทั้งสองขึ้นรถบรรทุกไปยังสำนักงานใหญ่ ท่ามกลางความตกตะลึงของเรโนและรู้ด

แท้จริงแล้วเส็งแกล้งทำเป็นยิงปืนใส่ตำแหน่งที่ไม่ใช่จุดตายเพื่อพาทั้งสองคนหลบหนีออกมา เวอร์ด็อท พร้อมทั้งพวกเติร์กจำนวนมากที่หาบสาบสูญไปในการต่อสู้ครั้งนี้ถูกตีข่าวว่าเสียชีวิตและชินระเลิกสนใจตามล่าไปแล้ว ปัจจุบันพวกเขาได้แยกย้ายไปใช้ชีวิตอย่างสงบในที่ต่างๆทั่วโลก รอเวลาที่จะกลับมาทำหน้าที่เติร์ก เมื่อเส็งและคนอื่นๆต้องการตัวพวกเขา

หลังก้าวพ้นการกวาดล้างครั้งนี้มาได้ เติร์กเหลือสมาชิกเพียงสี่คนคือ เส็ง เรโน รู้ด และเอเลน่า สาวสมาชิกเติร์กหน้าใหม่ที่แอบชื่นชอบเส็งอยู่ เส็งปลงผมยาวลงประบ่า แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจขึ้นรับตำแหน่งผู้นำเติร์กต่อจากเวอร์ด็อทนับจากนี้ไป...

ชายผู้สวมหน้ากากปีศาจ

เส็งสนิทกับแซ็ค แฟร์ โซลเยอร์เฟิร์สคลาสที่เคยปฏิบัติภารกิจร่วมกันหลายครั้ง แซ็คเป็นคนรักของแอริธ เด็กน้อยที่เส็งถูกมอบหมายให้ตามหามาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนซึ่งปัจจุบันเธอเติบโตเป็นหญิงสาวที่งามพร้อม ในครั้งที่แซ็คต้องออกไปปฏิบัติภารกิจที่นีเบิลไฮม์ เขาได้ไว้วางใจฝากให้เส็งช่วยดูแลแอริธด้วย ซึ่งเส็งก็ยินดีรับหน้าที่นี้ด้วยความเต็มใจ

เวลาผ่านไป 4 ปี ยังไม่มีทีท่าว่าแซ็คจะได้กลับมา เส็งรู้ว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นในนีเบิลไฮม์ และแซ็คได้ถูกนักวิทยาศาสตร์ของชินระนำตัวไปทดลองบางอย่าง เส็งยังคงเก็บจดหมายทุกฉบับที่แอริธพยายามส่งถึงแซ็คมาตลอด เขาตั้งใจจะมอบให้เมื่อแซ็คกลับมา แต่โอกาสนั้นไม่มีวันมาถึงตลอดกาล เมื่อชินระส่งกองทหารออกตามล่าแซ็คที่หนีออกมาจากห้องทดลอง เส็งพยายามให้พวกเติร์กออกตามหาตัวแซ็คให้พบก่อนกองทหารของชินระ แต่ก็สายเกินไป แซ็คถูกสังหารที่เนินเขาใกล้กับมิดการ์โดยที่เส็งไม่สามารถช่วยอะไรได้ และความล้มเหลวครั้งนี้ก็กลายเป็นตราบาปในใจเส็งมายาวนาน สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้

...แม้แต่แอริธ เด็กผู้หญิงคนสำคัญของเขา

ข่าวเรื่องการพบตัวหญิงสาวเผ่าโบราณที่พวกชินระตามหามากว่าสิบปีรั่วไปถึงหูของประธานชินระ ทำให้ชินระส่งคนออกมาตามล่าเธออย่างจริงจัง เส็งไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้อีกแล้ว นอกจากตัดสินใจใช้กำลังบังคับให้เธอกลับมาอยู่กับชินระ สถานการณ์ต่างๆได้บีบคั้นให้ชายหนุ่มผู้โอบอ้อมอารีย์ได้กลายเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้งานลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งนั่นเป็นหนทางตัวเขาและเวอร์ด็อทคนที่เขาเชื่อถือยึดมั่น

เส็งชิงตัวแอริธมายังสำนักงานใหญ่ชินระ ครั้งนี้เขาลงมืออย่างรุนแรงเพื่อบังคับให้แอริธเลิกขัดขืน แม้แต่ลูกน้องที่เคยปฏิบัติภารกิจอย่างป่าเถื่อนจนเส็งต้องคอยปรามหลายครั้ง กลับต้องตกใจกับความโหดเหี้ยมของเส็งในครั้งนี้

"นี่ไม่ใช่การเล่นบทปีศาจร้าย สำหรับแอริธแล้วชินระนั่นหละคือปีศาจ เพราะงั้นปีศาจก็ต้องทำตัวแบบปีศาจสิ"

นั่นคือสิ่งที่เขาบอกกับลูกน้อง เส็งยอมสวมหน้ากากของปีศาจร้าย เพื่อให้เรื่องของเผ่าโบราณที่เกี่ยวข้องกับตัวเขามายาวนานตั้งแต่สมัยอิฟาลน่าจบลงเสียที และเขาไม่ตั้งใจจะทรยศชินระที่ให้โอกาสเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากไปกว่านี้อีกแล้ว

แต่แอริธก็กลับมาอยู่กับชินระได้ไม่นาน กลุ่มต่อต้านชินระนำโดยคลาวด์ สไตรฟ์ ได้บุกเข้ามาชิงตัวแอริธออกไปได้สำเร็จ พร้อมกับการกลับมาของเซฟิรอธ อดีตโซลเยอร์ของชินระที่กลับมาทำลายชินระและออกตามหาดินแดนแห่งพันธสัญญา ตอนนี้ภารกิจหลักของเติร์กเปลี่ยนเป็นการออกตามล่าเซฟิรอธ แต่ถึงอย่างนั้นเส็งก็มีโอกาสได้พบกับแอริธเป็นครั้งสุดท้ายที่วิหารของเผ่าโบราณทางตอนใต้

เส็งตามร่องรอยของเซฟิรอธเข้ามาจนถึงด้านในสุดของวิหาร แต่เขาก็ถูกเซฟิรอธเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส แอริธและพรรคพวกของเธอที่ตามมาได้พบกับเส็งที่กำลังจะตาย เส็งรู้ว่าในสายตาของแอริธเขาคงเป็นคนชั่วช้าไปแล้ว เขาพยายามทำตัวเป็นเติร์กต่อหน้าแอริธจนถึงวาระสุดท้ายด้วยการบอกว่า "โธ่เว้ย การปล่อยให้แอริธหนีไปได้นี่เป็นจุดเริ่มต้นความซวยของฉันจริงๆ"

แต่สำหรับแอริธนั้น แม้จะปฏิเสธคำเชิญของเส็งและต่อว่าเส็งมาตลอด แต่เธอไม่เคยรู้สึกว่าเขาเป็นศัตรูเลย สำหรับแอริธแล้วเส็งคือคนที่รู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ทำให้น้ำตาของแอริธไหลออกมาไม่หยุด เมื่อเห็นแบบนั้นเส็งกลับต้องเป็นฝ่ายให้กำลังใจแอริธว่า

"ฉันยังไม่ตายหรอก"

ชินระชั่วนิรันดร์

พวกแอริธมีภารกิจต้องตามล่าเซฟิรอธ ทำให้พวกเขาต้องทิ้งเส็งไว้ เส็งได้แต่นั่งรอความตายอยู่ช้าๆ ท่ามกลางสติเลือนรางเขามองเห็นหุ่นยนต์แมวตัวหนึ่งเข้ามาหาเขา

นั่นคือเคทซิท หุ่นยนต์ของบริษัทชินระที่รีฟ ทูเอสติ เป็นผู้ควบคุม เขาได้ติดต่อพวกเติร์กรุ่นเก่าที่ออกจากชินระไปแล้วให้กลับมาช่วยพาตัวเส็งไปรักษาที่จูน่อน

เส็งรอดตายมาได้ แต่หลังจากนั้นสถานการณ์กลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ แอริธถูกเซฟิรอธสังหาร เมเทโอได้ถูกเรียกมาเพื่อถล่มดวงดาวตามแผนการของอดีตโซลเยอร์ผู้นี้ และตึกชินระยังถูกเวพ่อนถล่มจนเกือบราบคาบ เคราะห์ดีที่พวกเติร์กสามารถช่วย รูฟัส ชินระ ประธานชินระคนปัจจุบันออกมาได้

แม้ชินระเกือบจะจบสิ้นไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงทำหน้าที่ของเติร์กต่อไป รูฟัสมอบหมายให้เติร์กรวบรวมข้อมูล และมีแผนการสร้างเมืองขึ้นมาทดแทนมิดการ์ แม้จะเกิดเรื่องวุ่นวายหลายอย่าง แต่สุดท้ายแล้วเมืองเอดจ์ก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นที่อยู่ของประชาชน พร้อมมีอนุสาวรีย์เมเทโอกลางเมือง เพื่อให้ประชาชนรู้ว่านี่คือเมืองของชินระ พวกเติร์กยังคอยรับใช้รูฟัสมาตลอด และภารกิจสำคัญครั้งหนึ่งคือการตามหาเซลล์เจโนวาซึ่งตกค้างอยู่ในเครเตอร์ตอนเหนือ เส็งและเอเลน่าเข้ามาพบศัตรูที่หลอมขึ้นจากจิตของเซฟิรอธและถูกเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ฝากให้เรโนและรู้ดนำเซลล์เจโนวาไปให้รูฟัสได้สำเร็จ

แม้เติร์กจะเหลือเพียงสี่คนแต่พวกเขาก็ไมได้โดดเดี่ยว เวอร์ด็อทอดีตหัวหน้าของเขายังคอยช่วยเหลือพวกเส็งอยู่ตลอด ทั้งตอนช่วยคนอพยพช่วงเมเทโอตก และการให้ข้อมูลต่างๆที่จำเป็น เท่าที่เวอร์ด็อทจะหามาได้ สำหรับเขาแล้วพวกเติร์กก็เป็นเหมือนลูก และเวอร์ด็อทยังได้ฝากฝังให้เส็งช่วยดูแลประธานคนนี้ด้วย

แม้เส็งจะยังคิดถึงวันที่เวอร์ด็อทคอยเฝ้ามองตอนที่เขาออกไปปฏิบัติภารกิจเหมือนเมื่อก่อน แต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเขานั่นละ ที่มีหน้าที่ออกนำเติร์กตั้งแต่วันที่เวอร์ด็อทจากไปนั้น...


Trivia

  • คาดกันว่าชื่อ Tseng เป็นภาษาจีนที่เขียนแบบ Pinyin (เทียบเสียงอ่านจีนด้วยตัวโรมัน) ซึ่งตัว e ออกเสียงสระโอะ ส่วนตัวภาษาญี่ปุ่นตามตัวคาตาคานะ ツォン อ่านว่า “ซ่ง” เพื่อความคุ้นเคยตามที่ใช้กันมาผมขออนุญาตเรียกหมอนี่ว่า "เส็ง" เหมือนเดิมนะครับ แม้แต่วิธีสะกดชื่อหมอนี่ใน Last Order ทั้งตอนเส็งลงชื่อและในเครดิตตอนจบจะเขียนว่า "Zheng" (ซึ่งผิด!) ใน Crisis Core แซ็คพบกล้องถ่ายรูปที่เส็งทำตกไว้หน้าโบสถ์ก็อ่านชื่อ TSENG ไม่ออก เลยไม่รู้ว่าเป็นของเส็ง

  • ชุดของเติร์กในภาคหลักเป็นสีน้ำเงิน แต่เปลี่ยนเป็นสีดำในภาคเสริมอื่นๆ

  • พวกเติร์กอย่างเส็งได้เงินเดือนมากกว่าโซลเยอร์อย่างแซ็คเสียอีก

  • จากบันทึกนักวิจัยในคฤหาสน์ชินระที่นีเบิลไฮม์ เส็งพยายามขอคุยกับโฮโจเพื่อช่วยเหลือแซ็คหลายครั้ง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ของชินระห้ามไว้

  • เส็งมักใส่เครื่องแบบเติร์กอยู่เสมอ แม้แต่เวลาไปพักร้อนที่คอสตาเดลโซลซึ่งคนอื่นใส่ชุดว่ายน้ำ เส็งก็ยังใส่สูทเต็มยศจนแซ็คสงสัยว่าหมอนี่ไม่เคยใส่ชุดอื่นเลยเรอะ? ที่จริงแล้วเขาเคยใส่ชุดฮาวายสีฉูดฉาดตอนเข้าไปรวบรวมข้อมูลในมิดการ์กับเอเลน่า สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชุดเพราะคนมิดการ์กำลังโกรธแค้นและกล่าวโทษว่าชินระเป็นต้นเหตุของหายนะทั้งหมด

  • เส็งเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวในเกือบทุกภาค (ยกเว้น Dirge of Cerberus และแอนิเมชั่น On the Way to a Smile ซึ่งเป็นเรื่องของเดนเซล) เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญของ FFVII ทั้งภารกิจตามล่าและกำจัดเจเนซิสและแองจีล การทำลายบาโนร่า หายนะของโคเรล การยิงจรวดล้มเหลว การทำลายป้อมอวาลันช์ที่วูไทและนอร์ธโพล การเผาเมืองนีเบิ้ลไฮม์ การตามล่าแซ็ค เติร์กก่อกบฏ การล่มสลายของชินระ การอพยพชาวเมืองช่วงเมเทโอตก การฟื้นฟูชินระ และอื่นๆ เรียกได้ว่าเหตุการณ์แทบทั้งหมดของ Compilation of FFVII ได้ปรากฏต่อสายตาของชายผู้นี้ ทำให้เขาเป็นคนที่เข้าใจเรื่องราวต่างๆมากกว่าใคร

 

<กลับไปหน้าหลัก>


Web Content by Shiryu
This site is best viewed in Firefox with a resolution of 1024x786