|
Sephiroth
セフィロス
เพศ :
ชาย
วันเกิด : ไม่ทราบ
อายุ : ประมาณ 25 - 30 ปีในภาคหลัก
กรุ๊ปเลือด : ไม่ทราบ
สถานที่เกิด :
Nibelheim
ส่วนสูง : ไม่ทราบ
อาวุธ : มาซามุเนะ
|
เมื่อราวๆ 50 ปีก่อน
บริษัทชินระได้มีโครงการสร้างมนุษย์ที่มีความสามารถของเผ่าโบราณเพื่อใช้ในการตามหาดินแดนแห่งพันธสัญญา
พวกเขาขุดพบเจโนวาในชั้นหินอายุสองพันปีและเข้าใจว่าเป็นชนเผ่าโบราณ
จึงมีการทดลองนำเซลล์ของเจโนวามาใช้กับมนุษย์ด้วยวิธีการต่างๆ และเรียกโปรเจ็คต์ที่เกี่ยวข้องกับเจโนวาทั้งหมดนี้ว่า
เจโนวาโปรเจ็คต์ ศจ.กัสต์ ฟาเรมิส
หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของชินระในสมัยนั้นเป็นผู้ดูแลโครงการ
และมีนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำอีกสองคนคือ โฮโจ และ ฮอลันเดอร์
ที่แข่งกันสร้างมนุษย์ทดลองแบบต่างๆ ฮอลันเดอร์คาดหวังกับตำแหน่งมาก
ในขณะที่โฮโจสนใจแค่การสนองความอยากรู้อยากเห็นในแง่มุมวิทยาศาสตร์ของตนเอง
หลังดำเนินโครงการไปพักหนึ่ง กัสต์
พบว่าเจโนวาที่พวกเขาค้นพบนั้นไม่ใช่เผ่าโบราณอย่างที่เคยเข้าใจ
แต่มันคือ "หายนะจากฟากฟ้า"
มนุษย์ทดลองที่สร้างขึ้นไม่ได้มีคุณสมบัติของเผ่าโบราณ
แต่กลับสืบทอดเซลล์ที่เคยกัดกินดวงดาวจนเจียนพินาศ
ด้วยความสำนึกผิดนี้ทำให้เขาทอดทิ้งชินระหายสาบสูญไป
เซฟิรอธ
เป็นสุดยอดผลงานวิจัยจากโครงการเจโนวาที่สร้างขึ้นจากการฉีดเซลล์ของเจโนวาให้กับเด็กในครรภ์ของลูเครเซีย
เครซเซนท์ นักวิทยาศาสตร์สาวของชินระที่ตั้งท้องกับเจ้าโฮโจนี่เอง
ผลการทดสอบทางกายภาพของเซฟิรอธสมบูรณ์แบบ
เขามีเซลล์ที่ไม่เสื่อมสลายและไม่หลงเหลือการจำลองสภาพของเจโนวาอยู่เหมือนตัวทดลองอื่นๆ
ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้โฮโจได้รับสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ต่อจากกัสต์
ชินระนำตัวเซฟิรอธย้ายจากห้องทดลองที่นีเบิ้ลไฮม์มายังมิดการ์และเลี้ยงดูเขาให้เติบโตเป็นโซลเยอร์กำลังสำคัญของกองทัพชินระ
แล้วความสามารถที่เหนือกว่ามนุษย์คนอื่นๆก็ทำให้เซฟิรอธก้าวขึ้นมาเป็นโซลเยอร์อันดับหนึ่งได้ในเวลาไม่นาน
เขาเข้าร่วมสงครามและชนะหลายต่อหลายครั้ง
เขาปฏิบัติภารกิจระดับยากที่สุดสำเร็จในเวลาอันสั้น ผมยาวสลวยสีเงิน
ชุดคลุมดำ และดาบมาซามุเนะเล่มยาวของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่หวาดกลัวของศัตรูทุกหมู่เหล่า
ในขณะเดียวกันเขาคือวีรบุรุษที่แท้จริงของชินระ
ผู้ได้รับการกล่าวขานไปทั่วโลก
เซฟิรอธรู้แต่เพียงว่าแม่ของเขาคือ "เจโนวา"
ซึ่งชินระเล่าว่าเธอเสียชีวิตไปหลังจากเขาเกิดได้ไม่นาน แต่เซฟิรอธไม่เคยรู้อดีตตัวเองเลย
และตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจำเป็นต้องรู้
หน้าที่ของเขาคือการต่อสู้ให้กับชินระ
และวีรบุรุษผมเงินผู้นี้ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาตลอด
นอกจากเซฟิรอธแล้ว แองจีล ฮิวเลย์ และเจเนซิส ก็เป็นโซลเยอร์ชั้นแนวหน้าที่ถูกขนานนามว่า
"ตำนานโซลเยอร์" เช่นเดียวกับตัวเขา
ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทที่มีฝีมือการต่อสู้อยู่ในระดับแนวหน้าของชินระ
กิจวัตรยามเย็นของพวกเขาคือเข้ามาใช้ห้องซิมูเลชั่นฝึกต่อสู้กันเอง
ซึ่งก็เป็นวิธีพัฒนาความสามารถที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสามคนที่ไม่สามารถหาคู่มือที่สมน้ำสมเนื้อได้อีกแล้ว
แต่ในการดวลแต่ละครั้ง เซฟิรอธก็ยังเหนือกว่าอีกสองคนอย่างเห็นได้ชัด
ครั้งหนึ่งระหว่างการดวลกันสามคน เจเนซิสเกิดความรู้สึกต้องการเอาชนะเซฟิรอธขึ้นมาจึงเข้าต่อสู้อย่างบ้าระห่ำจนเกิดขอบเขตของการฝึกซ้อมไป
แองจีลเข้ามาสงบศึกไว้ได้ทันแต่เจเนซิสก็บาดเจ็บระหว่างการต่อสู้
ระหว่างที่ฮอลันเดอร์นักวิทยาศาสตร์ประจำชินระกำลังรักษาตัวเขาอยู่ก็พบความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น
ไม่ช้าเจเนซิสและฮอลันเดอร์ก็ออกจากชินระไปพร้อมนำกองกำลังส่วนหนึ่งไปด้วย
พนักงานชินระรวมทั้งเซฟิรอธเองไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
แต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องสนใจมากกว่าคือสงครามวูไทที่กำลังร้อนระอุ
ชินระได้ประกาศสงครามกับวูไทมหาอำนาจทางตะวันตกเนื่องจากความล้มเหลวในการเจรจาขอสร้างเตาปฏิกรณ์ในพื้นที่วูไท
การต่อสู้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลาแปดปี ในเดือนพ.ย.ปี 0000
ชินระมีแผนส่งกองกำลังโซลเยอร์บุกเข้าทำลายป้อมแทมบลินอันเป็นป้อมสำคัญของวูไท
แองจีล และแซ็ค แฟร์ โซลเยอร์เซคันด์คลาสดาวรุ่งของชินระได้ถูกส่งตัวมาปฏิบัติภารกิจสำคัญแทนเจเนซิสที่หายสาบสูญไป
แล้วแซ็คก็สามารถจัดการพวกทหารวูไทรวมทั้งมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่สร้างไว้รับมือโซลเยอร์
ก่อนที่พวกเขาจะถล่มป้อมแทมบลินได้สำเร็จ
แต่กองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้เข้าโจมตีตลบหลังโซลเยอร์ ทางเซฟิรอธที่นำทีม
B ซัพพอร์ทปฏิบัติการของทีมหลักได้เข้ามาช่วยแซ็คไว้ทัน
และพบว่ากองกำลังเหล่านี้คือโคลนของเจเนซิส แล้วหลังจบการต่อสู้แองจีลก็หายตัวตามเจเนซิสไปอีกคนท่ามกลางความงงงวยของพวกแซ็ค
อีกสามเดือนต่อมา สงครามวูไทก็ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์
ชินระประโคมข่าวให้เครดิตจนเซฟิรอธได้รับความดีความชอบมากมายจากสงครามครั้งนี้
พร้อมทั้งประกาศว่าแองจีลและเจเนซิสเสียชีวิตในหน้าที่
เพื่อปกปิดความจริงที่อาจก่อความเสียหายกับองค์กรได้ สำหรับแซ็คฮีโร่ที่ถล่มป้อมแทมบลินครั้งนั้นได้รับการเลื่อนระดับเป็นเฟิร์สคลาส
แต่ทั้งแซ็คและเซฟิรอธก็ไม่ได้ยินดีกับการที่เพื่อนคนสำคัญของพวกเขาแยกทางจากชินระไป
เซฟิรอธยังถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจที่อยู่ในลำดับสูงสุดของชินระทุกครั้ง
ต้นปี 0001 กลุ่มต่อต้านชินระที่เรียกว่าอวาลันช์ได้เปิดฉากโจมตีมิดการ์และจูน่อน
พวกมันต้องการเข้ายึดปืนใหญ่มาโค แต่เซฟิรอธก็บุกเข้าไปกำจัดอวาลันช์นับสิบในห้องควบคุมได้ในพริบตา
เขาได้ปะทะกับเอลเฟ่หัวหน้ากลุ่มอวาลันช์ผู้มีพลังของสุดยอดสัตว์อสูรอยู่ในร่าง
แต่เซฟิรอธก็รับมือได้ไม่ยากเย็นทำให้เอลเฟ่ต้องถอยทัพกลับไป
โดยได้ทิ้งคำถามไว้ว่า
"เซฟิรอธ
แกต่อสู้ไปเพื่ออะไรกันแน่?"
เซฟิรอธรู้สึกถึงพลังบางอย่างจากผู้หญิงคนนี้
เธอมีพลังที่ทำให้ความสามารถสูงเหนือมนุษย์เช่นเดียวกับเขา และเอลเฟ่ยังมีเป้าหมายในการต่อสู้
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาอาจไม่เคยมีมาก่อนเลยก็ได้
ทางด้านเจเนซิสได้นำกองกำลังออกอาละวาดเพื่อล้างแค้นชินระส่วนหนึ่ง
แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือต้องการหาวิธีหยุดยั้งสภาพเสื่อมสลาย
อันเกิดจากความไม่เสถียรของเซลล์เขาตั้งแต่กำเนิด เจเนซิสค้นพบความจริงที่ว่าชินระได้สร้างเขาขึ้นมา
แถมยังเป็นเพียงตัวทดลองที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เขาตัดขาดจากชินระไป
และได้ชักชวนแองจีล
"ตัวทดลองอีกคนหนึ่ง"
ออกมาด้วย แองจีลผิดกับเจเนซิสตรงที่เขามีความสมบูรณ์แบบมากกว่าและไม่เกิดสภาพเสื่อมสลาย
แม้แองจีลยังคงมีเกียรติภูมิของโซลเยอร์อยู่ล้นเปี่ยมและต้องการทำงานให้ชินระจนวาระสุดท้าย
แต่เขาก็ไม่สามารถแบกรับความจริงที่ตัวเขาเองก็เป็นมอนสเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาได้เช่นกัน
ชินระมอบหมายให้เซฟิรอธสังหารสองคนนั้น แต่เขาปฏิเสธ
ขณะที่ชินระยังไม่ไว้ใจแซ็คเพราะเป็นเพื่อนสนิทของแองจีล
ทำให้ภารกิจนี้ตกเป็นงานของกองทัพ เซฟิรอธได้พาแซ็คออกติดตามกองทัพมาด้วยเพื่อตามหาตัวแองจีลให้พบก่อนพวกทหาร
แล้วแกล้งทำงานพลาดเพื่อให้แองจีลหนีไปได้ เมื่อรู้ดังนั้นแซ็คดีใจมากที่เซฟิรอธก็ต้องการช่วยเหลือเพื่อนของเขา
เซฟิรอธและแซ็คเข้ามาในห้องทดลองใต้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 5
ซึ่งเป็นห้องทดลองเก่าของฮอลันเดอร์และพบข้อมูลการทดลองโปรเจ็คต์
G ที่สร้างเจเนซิสขึ้นมา
ที่นี่พวกเขาได้พบกับเจเนซิสและฮอลันเดอร์ แซ็ควิ่งไล่ตามฮอลันเดอร์ไป
ขณะที่เซฟิรอธเผชิญหน้ากับเจเนซิส เจเนซิสบอกว่าตัวเขาต้องการเป็นวีรบุรุษแทนตัวเซฟิรอธ
ซึ่งเซฟิรอธเองก็ไม่ได้สนใจตำแหน่งวีรบุรุษอะไรนี่เลยสักนิด "แกอยากเป็นก็เป็นไปเถอะ"
แต่หลังพบเจเนซิสครั้งนี้เซฟิรอธเริ่มสนใจชาติกำเนิดของโซลเยอร์อย่างพวกเขา
และหมกตัวอยู่ในห้องเก็บข้อมูลของชินระอยู่หลายวัน
ทางด้านแซ็คพลาดท่าปล่อยให้ฮอลันเดอร์หนีไปได้
เขาได้รับข่าวว่าเจเนซิสและฮอลันเดอร์อยู่ในโรงงานเก่าของชินระที่โมเดโอไฮม์ทางตอนเหนือ
ขณะที่คนอื่นๆยังติดต่อเซฟิรอธไม่ได้ แซ็คจึงออกปฏิบัติภารกิจพร้อมเติร์กชื่อเส็งและทหารธรรมดาอีกสองนาย
ในภารกิจนี้แซ็คได้พบกับเจเนซิสและแองจีล
และสามารถเอาชนะทั้งสองคนอีกทั้งจับกุมฮอลันเดอร์ได้ ก่อนตายแองจีลได้มอบบัสเตอร์ซอร์ดอาวุธของเขาให้แก่แซ็คเพื่อสืบทอดเกียรติภูมิของโซลเยอร์แทนตัวเขาต่อไป
เรื่องราวควรจะจบลงอย่างสมบูรณ์ แต่เจเนซิสยังมีชีวิตอยู่และหาวิธีการหยุดยั้งการเสื่อมสลายของเขาอยู่ลับๆ
ในครั้งที่อวาลันช์นำโดยฟุฮิโตะได้บุกเข้าสำนักงานใหญ่ของมิดการ์เพื่อชิงตัวโฮโจให้ไปร่วมงานกับพวกเขานั้น
เติร์กไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้
การที่ความลับจากฝ่ายวิทยาศาสตร์รั่วไหลอาจถึงกับทำให้ชินระล้มละลายและโฮโจก็ดูจะไม่สนใจอะไรนอกจากการได้ทดลองตามที่ตัวเองอยากทดลองด้วยสิ
ประธานชินระเห็นสถานการณ์คับขันสุดขีดจึงเรียกตัวเซฟิรอธมาที่สำนักงานใหญ่
แล้วเซฟิรอธก็กำจัดมอนสเตอร์ที่ฟุฮิโตะสร้างขึ้นก่อนชิงตัวโฮโจกลับมาอย่างง่ายดาย
โฮโจเอ่ยปากชมว่าเซฟิรอธแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเซฟิรอธก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของโฮโจนัก
โฮโจนั้นชื่นชมโลกที่สรรค์สร้างผู้ที่แข็งแกร่งขนาดเซฟิรอธและเอลเฟ่ขึ้นมาได้
เขาตั้งใจจะอยู่ทำงานกับชินระต่อไปเพื่อเฝ้าดูผลิตผลจากเจโนวาโปรเจ็คต์ที่เขาสร้างขึ้น
และตัวเซฟิรอธตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องนั้น
เจเนซิสได้นำกองกำลังบุกเข้าจูน่อนและชิงตัวฮอลันเดอร์ที่ถูกคุมขังออกไปได้สำเร็จ
เดือนกันยายน 0002 กองกำลังของเจเนซิสได้ออกบุกเตาปฏิกรณ์ของชินระทั่วโลกเพราะรู้มาว่าเจโนวาถูกเก็บอยู่ที่เตาไหนสักแห่ง
เจเนซิสเชื่อว่าหากมีเจโนวา ฮอลันเดอร์อาจช่วยให้เขาพบวิธีหยุดยั้งการเสื่อมสลายที่เขาประสบอยู่
คณะเดินทางประกอบด้วยเซฟิรอธ แซ็ค และทหารอีกสามนายได้ถูกส่งตัวมาที่นีเบิ้ลไฮม์ที่แรกที่ชินระสร้างเตาปฏิกรณ์ขึ้น
ชินระสั่งให้เซฟิรอธทำภารกิจนี้ทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสเป็นไปได้มากที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับเจเนซิส
และตัวเซฟิรอธเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะยืนอยู่ฝั่งเดียวกับชินระไปอีกนานแค่ไหน
สักวันเขาอาจต้องเดินตามเส้นทางของแองจีลและเจเนซิสไปอีกคน
"พวกเขาสั่งให้เราตรวจสอบเตาปฏิกรณ์โดยไม่ได้พูดถึงคำว่าอดีตเพื่อนเลยสักนิด
ไม่แน่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจทำให้ฉันต้องทิ้งชินระไปก็ได้
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นฉันจะทำหน้าที่โซลเยอร์ให้ถึงที่สุด"
ทีฟา ล็อคฮาร์ท สาวน้อยชาวเมืองนีเบิ้ลไฮม์ได้เป็นไกด์พาคณะเดินทางขึ้นภูเขานีเบิ้ลไป
เซฟิรอธและแซ็คเข้าไปในเตาปฏิกรณ์ก็พบการทดลองที่นำมนุษย์มาอัดมาโคเข้าไปในร่างในปริมาณที่สูงกว่าที่ใช้กับโซลเยอร์หลายเท่าจนพวกนี้เปลี่ยนสภาพไปเป็นเหมือนมอนสเตอร์
แล้วโซลเยอร์ที่ไม่เหมือนคนอื่นอย่างเขาก็ถูกสร้างด้วยวิธีที่เหมือนการสร้างมอนสเตอร์แบบนี้หรือเปล่า?
เซฟิรอธเกิดคำถามขึ้น สุดยอดโซลเยอร์อย่างแองจีลและเจเนซิสเองก็หลุดจากความเป็นมนุษย์ไปแล้ว
แล้วตัวเขาที่เหนือกว่าคนอื่นๆขึ้นไปอีกล่ะ?
"ฉันรู้ตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้วว่าฉันแตกต่างจากคนอื่น
เป็นคนพิเศษที่แตกต่างออกไป แต่... ไม่ใช่แบบนี้
นี่ฉันเป็นมนุษย์หรือเปล่า?"
แต่ก่อนที่แซ็คจะได้พูดอะไรเพื่อช่วยเซฟิรอธ เจเนซิสก็ปรากฏตัวขึ้นพอดี
"เสียใจด้วยนะ
แกเป็นมอนสเตอร์"
เจเนซิสได้เล่าเรื่องราวซึ่งได้ทำลายวีรบุรุษของดวงดาวคนนี้จนพังพินาศ
เขาบอกกับเซฟิรอธว่าพวกเขาเป็นตัวทดลองที่ถูกสร้างขึ้นในเจโนวาโปรเจ็คต์
โปรเจ็คต์ที่ใช้เซลล์ของเจโนวา
มอนสเตอร์ที่ถูกขุดพบในชั้นหินอายุสองพันปี
แม่ของฉันคือมอนสเตอร์?!
เจเนซิสเล่าว่าเขาและแองจีลถูกสร้างขึ้นในโปรเจ็คต์
G ขณะที่เซฟิรอธถูกสร้างขึ้นในโปรเจ็คต์
S
ซึ่งนำความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนมาสร้างมอนสเตอร์ที่สมบูรณ์อย่างเซฟิรอธ
พร้อมได้เอ่ยปากขอเซลล์ของเซฟิรอธที่เขาคิดว่าจะช่วยหยุดยั้งการเสื่อมสลายของเขาได้
แต่เซฟิรอธก็ยังคงปฏิเสธ
"ไม่ว่าเรื่องที่แกเล่าจะเป็นเรื่องที่กุขึ้นเพื่อทำให้ฉันสับสน
หรือเป็นความจริงที่ฉันตามหามาตลอดชีวิต มันก็ไม่ต่างกันหรอก
...แกจะต้องเน่าตาย!"
เซฟิรอธเดินออกไปอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น
เขาหมกตัวอยู่ในห้องสมุดที่แล็บเก่าของชินระในนีเบิ้ลไฮม์เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องเจโนวาโปรเจ็คต์เป็นเวลาถึง
7 วัน คนเดียวที่น่าจะรู้เรื่องราวดีที่สุดคือศจ.กัสต์ซึ่งเป็นคนทำข้อมูลพวกนี้ขึ้นมาก็ตายจากไปนานแล้ว
"ศจ.กัสต์...
ทำไมคุณไม่บอกอะไรผมเลย... ทำไมคุณต้องตายด้วย"
จากการอ่านรายงานเก่าของศจ.กัสต์ที่เคยเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของเจโนวาไปมากทำให้เซฟิรอธเข้าใจเรื่องราวผิดเพี้ยนไปพอสมควรด้วย
เขาคิดว่าเจโนวา แม่ของเขา คือเผ่าโบราณที่เคยช่วยโลกจากหายนะ
การต่อสู้ในอดีตทำให้เผ่าโบราณเหลือน้อยลง
และมนุษย์ปัจจุบันได้ขึ้นมาครอบครองดวงดาวแทน
พวกมันแย่งชิงดวงดาวไปจากแม่!
แล้วตำนานโซลเยอร์คนสุดท้ายก็ก้าวไปสู่อีกฝั่งหนึ่งเต็มตัว...
การกำเนิด ชีวิต ความตาย และการถือกำเนิดใหม่ |
เซฟิรอธบ้าคลั่งเผาทำลายนีเบิ้ลไฮม์
เขารู้ว่าร่างของเจโนวา
"แม่ของเขา"
ถูกผนึกไว้ที่เตาปฏิกรณ์ของนีเบิ้ลไฮม์
จึงเดินทางไปที่เตาปฏิกรณ์อีกครั้งเพื่อนำแม่ออกมา
และเดินทางไปสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญาด้วยกัน
เขาเข่นฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา รวมทั้งพ่อของทีฟา ทีฟาบุกเข้ามาในเตาปฏิกรณ์เพื่อล้างแค้นให้พ่อและชาวเมืองแต่ก็ถูกเซฟิรอธเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส
แล้วเซฟิรอธก็เข้ามาจนถึงห้องที่เก็บร่างของเจโนวา
"แม่ครับ
เรานำดาวดวงนี้กลับมาด้วยกันเถอะ ผม...ผมมีวิธีแล้ว ไปดินแดนแห่งพันธสัญญาด้วยกันเถอะครับแม่"
แต่แซ็คก็เดินเข้ามาในห้องพอดี
"เซฟิรอธ!
ทำไมนายต้องฆ่าพวกชาวเมือง! ทำไมนายต้องทำร้ายทีฟาด้วย! ตอบมาสิเซฟิรอธ!"
"แม่ครับ
พวกมันมาอีกแล้ว แม่ควรจะได้ปกครองดาวดวงนี้ แม่ฉลาดกว่า เข้มแข็งกว่า
แต่พวกมันก็มา เจ้าพวกสวะชั้นต่ำ.... พวกมันแย่งชิงดวงดาวไปจากแม่
แต่อย่าเศร้าไปเลยครับแม่ ตอนนี้มีผมอยู่ด้วยแล้ว..."
เซฟิรอธเข้าต่อสู้กับแซ็ค เขาไม่ใช่เซฟิรอธที่ทุกคนเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว
แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือพลังการต่อสู้ที่อยู่ในลำดับสูงสุดของโลก
แม้จะโค่นสองตำนานอย่างแองจีลและเจเนซิสมาได้ แต่แซ็คก็ยังไม่สามารถเอาชนะเซฟิรอธได้
เขาโดนอัดกระเด็นออกนอกห้องมา แต่ขณะที่เซฟิรอธกำลังจะนำร่างของเจโนวาออกมา
ทหารคนหนึ่งที่มาพร้อมกับคณะเดินทางก็ได้หยิบบัสเตอร์ซอร์ดของแซ็คแทงเข้าด้านหลังเซฟิรอธ
ทหารคนนี้คือคลาวด์ สไตรฟ์ ชายหนุ่มผู้เกิดที่นีเบิ้ลไฮม์
เขาโกรธแค้นที่เซฟิรอธเผาทำลายบ้านเกิด และฆ่าแม่ของเขา
อีกทั้งยังทำร้ายทีฟาและแซ็ค คลาวด์เข้าไปดูอาการทีฟาในขณะที่เซฟิรอธพยายามฝืนอาการบาดเจ็บตัดหัวเจโนวาออกมา
"คลาวด์!
จัดการเซฟิรอธซะ!"
สิ้นเสียงตะโกนของแซ็ค คลาวด์ก็ได้ฮึดเข้าสู้กับเซฟิรอธด้วยพลังแฝงอันเหลือเชื่อ
ก่อนจะโยนเซฟิรอธลงไปก้นเตาปฏิกรณ์ได้สำเร็จพร้อมหัวเจโนวาที่กำอยู่ในมือ
แต่ตัวคลาวด์เองก็บาดเจ็บสาหัสและถูกชินระนำตัวไปทดลองพร้อมกับแซ็ค
ส่วนร่างไร้หัวของเจโนวาถูกย้ายมาที่ตึกสำนักงานใหญ่ของชินระในมิดการ์
ชินระป้ายสีว่าแซ็คและคลาวด์เป็นผู้เผานีเบิ้ลไฮม์และสังหารเซฟิรอธ
ทุกคนต่างเชื่อกันว่าเซฟิรอธได้เสียชีวิตไปแล้ว
ความโศกเศร้าได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งโลกหลังทราบว่าพวกเขาได้สูญเสียวีรบุรุษของดวงดาวไปตลอดกาล
วีรบุรุษเซฟิรอธนั้นเสียชีวิตไปแล้วจริง
ในขณะเดียวกันวายร้ายตัวฉกาจของดวงดาวก็ถือกำเนิดขึ้นมา
หลังจากตกลงมาภายในดวงดาวที่เต็มไปด้วยไลฟ์สตรีมนั้น
เซฟิรอธที่กอดหัวของเจโนวาไว้แน่นได้ดูดซับความรู้ความทรงจำมากมายจากไลฟ์สตรีม
ร่างของเขาสลายไปเป็นส่วนหนึ่งของสายธารชีวิตที่หล่อเลี้ยงดวงดาว
แต่จิตอันกล้าแข็งก็ทำให้เซฟิรอธหลอมรวมสร้างร่างกายขึ้นมาใหม่ที่ดินแดนตอนเหนือ
พร้อมกับหัวของเจโนวา
จากการศึกษาในโครงการเจโนวาของโฮโจ
นอกจากการจำลองลักษณะทางพันธุกรรมแล้วเจโนวายังมีความสามารถในการรียูเนี่ยน
(กลับมารวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน)
ไม่ว่าร่างของเจโนวาจะถูกหั่นเป็นกี่ส่วน
สุดท้ายพวกมันก็จะกลับมารวมตัวกันด้วยสัญชาติญาณรียูเนี่ยนนี้
ซ้ำร้ายพลังของเซฟิรอธยังกล้าแข็งพอที่จะสั่งการควบคุมเจโนวา
รวมทั้งร่างแยกอื่นๆของเจโนวาได้ทั่วทั้งโลก
เขาสั่งให้ร่างไร้หัวของเจโนวาในตึกชินระเปลี่ยนร่างเป็นตัวเขาและพังห้องทดลองออกมา
เจโนวาในร่างของเซฟิรอธได้ออกอาละวาดทำลายตึกชินระและสังหารประธานชินระท่ามกลางความโกลาหล
เกิดเสียงร่ำลือไปทั่วว่าเซฟิรอธได้กลับมาแล้ว
เขาต้องการเดินทางไปที่ดินแดนแห่งพันธสัญญาเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
และบุรุษผมเงินยังคงจำคลาวด์ ผู้ที่เคยสังหารเขาไปครั้งหนึ่งได้ดี
เมื่อรู้เรื่องนี้เข้า คลาวด์ก็ไม่รอช้า
ศัตรูคนสำคัญของเขายังคงมีชีวิตอยู่
และเขาต้องตามล่ามันเพื่อสะสางเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง คลาวด์นำทีมอวาลันช์ออกเดินทางติดตามเซฟิรอธมาเรื่อย
โดยในทีมมีทีฟา สาวน้อยจากนีเบิ้ลไฮม์ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น และแอริธ
เกนสโบรู
ผู้สืบเชื้อสายเผ่าโบราณคนสุดท้ายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมอยู่ด้วย
หลายครั้งที่พวกคลาวด์ตามมาจนเกือบถึงตัวเซฟิรอธมันจะทิ้งชิ้นส่วนเจโนวาลงมาสู้ถ่วงเวลาพวกคลาวด์แล้วหนีไปทุกครั้ง
พวกคลาวด์เดินทางมาจนถึงนีเบิ้ลไฮม์และพบว่าเมืองยังคงมีสภาพเหมือนเดิม
แต่มาพบเอาภายหลังว่าเป็นฝีมือของชินระที่สร้างเมืองขึ้นใหม่เพื่อปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้น
นอกจากสภาพเมืองแล้วในเมืองยังเต็มไปด้วยชายชุดดำซึ่งเป็นโคลนของเซฟิรอธที่เกิดจากการทดลองของชินระ
พวกคลาวด์เคยพบกับชายชุดดำมาบ้างแล้ว พวกมันน่าจะมาจากนีเบิ้ลไฮม์และกระจายไปทั่วทั้งโลกเพื่อจุดประสงค์การทดลองบางอย่างของชินระ
พวกมันไม่มีสติตอนที่ยังเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว
สิ่งที่พวกชายชุดดำพร่ำบอกก็คือ
"การนำแบล็คมาทีเรียไปให้ท่านเซฟิรอธ"
และ "การกลับรวมเป็นหนึ่งเดียว"
ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของพวกมันตามสัญชาตญาณของเจโนวาที่อยู่ภายในร่าง
เซฟิรอธตนนี้ได้เดินทางมาจนถึงวิหารเผ่าโบราณ
สถานที่ๆเป็นเป้าหมายของเขาก่อนไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญา แล้วเซฟิรอธก็เปิดเผยกับพวกคลาวด์ว่าเขาต้องการนำแบล็คมาทีเรียจากโบสถ์หลังนี้ไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญาสถานที่อันมีพลังมาโคมหาศาลเพื่อเรียกสุดยอดมนต์ดำ
"เมเทโอ"
ลงมาถล่มดวงดาวให้เกิดแผลฉกรรจ์ ดวงดาวจะรวบรวมไลฟ์สตรีมเพื่อเยียวยาแผลนั้นและตัวเขาจะเข้าไปอยู่ตรงกลางของห้วงพลังงานมหาศาลเพื่อรับพลังอันจะทำให้ตัวเขาทัดเทียมพระเจ้า
เซฟิรอธไม่ใช่เผ่าโบราณ แต่การเดินทางท่องไลฟ์สตรีมก็ทำให้เขามีพลังเหนือกว่าเผ่าโบราณและสามารถตามหาดินแดนแห่งพันธสัญญาได้ด้วยตนเอง
ซ้ำร้ายเขาได้ใช้ความสามารถในการควบคุมร่างแยกของเจโนวาสั่งการคลาวด์ให้ทำตามคำสั่งของเขาได้
คลาวด์ส่งแบล็คมาทีเรียให้กับมือเซฟิรอธ แล้วเซฟิรอธก็ออกเดินทางไปทางแดนเหนือขณะที่คลาวด์ยังคงช็อคกับการที่เขาถูกเซฟิรอธควบคุมได้อยู่
โดยไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
แอริธเผ่าโบราณคนสุดท้ายรับรู้วิธีการหยุดยั้งเมเทโอจากวิหารเผ่าโบราณแห่งนี้
เธอรู้ว่าจะต้องไปที่นครสาบสูญทางตอนเหนือแล้วสวดภาวนาผ่านไวท์มาทีเรียของเธอเพื่อให้ดวงดาวตอบสนองและส่งสุดยอดมนต์ขาว
"โฮลี่"
ขึ้นมาปกป้องดวงดาวจากเมเทโอ แอริธได้เดินทางมายังแดนเหนือตามลำพัง
แต่เซฟิรอธก็ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวนี้และเห็นว่าสาวน้อยเผ่าโบราณคนนี้เป็นอันตรายต่อแผนการของเขา
พวกคลาวด์รีบเดินทางตามแอริธมาถึงตอนเหนือ แต่เซฟิรอธก็กระโจนลงมาสังหารแอริธต่อหน้าพวกคลาวด์เสียก่อน
แท้จริงแล้วแอริธได้เรียกโฮลี่สำเร็จตามความตั้งใจของเธอแล้ว
เซฟิรอธตัวจริงที่อยู่ในแกนกลางดวงดาวจึงสร้างผนึกปิดกั้นโฮลี่ไว้
และการที่แอริธถูกเซฟิรอธสังหารเสียก่อนทำให้พวกคลาวด์ไม่รู้เรื่องนั้น
พวกเขายังเหลือความหวังเพียงน้อยนิดในการเดินทางต่อจากนี้
และเซฟิรอธก็ต้องการทำลายความหวังนั้นให้พินาศลงอย่างสมบูรณ์
คลาวด์และพรรคพวกตามเซฟิรอธมาจนถึงตอนเหนือและพบว่าเซฟิรอธคนที่คลาวด์เดินทางตามล่ามาตลอดแท้จริงแล้วเป็นเพียงชิ้นส่วนของเจโนวาที่หลุดออกมาจากตึกชินระตอนนั้น
พวกเขาแย่งแบล็คมาทีเรียที่อยู่ในมือเจโนวาตอนนี้กลับมาได้
ขณะเดียวกันชายชุดดำจำนวนมากซึ่งเป็นผู้ที่มีเซลล์ของเจโนวาอยู่ในร่างก็เดินทางจากทั่วโลกมายังแดนเหนือ
เพื่อรวมตัวกับส่วนหัวของเจโนวาตามทฤษฎีรียูเนี่ยน แล้วเซฟิรอธก็ช่วยสนองความต้องการด้วยการฆ่าพวกมันทิ้งทั้งหมดแล้วโยนลงมาในเครเตอร์เพื่อรียูเนี่ยน
อีกทั้งเขายังมีร่างโคลนที่คาดหวังว่าจะเป็นโคลนตัวที่นำแบล็คมาทีเรียมาให้เขาได้อยู่แล้ว
นั่นก็คือ
"คลาวด์"
เซฟิรอธพยายามบอกกับคลาวด์ว่าคลาวด์ไม่ใช่คนที่เติบโตที่นีเบิ้ลไฮม์เหมือนที่เขาเคยเข้าใจ
แต่เป็นเพียงโคลนของเซฟิรอธที่ถูกสร้างขึ้นจากเซลล์ของเจโนวาเมื่อห้าปีก่อน
คนเดียวที่ยึดให้ตัวตนของคลาวด์ยังคงอยู่ได้ก็คือทีฟาที่เติบโตมาด้วยกันและอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
แต่สิ่งที่ทีฟารู้เห็นมากลับตรงกับที่เซฟิรอธบอกแทบทุกประการ คลาวด์ไม่ได้มาที่นีเบิ้ลไฮม์ทั้งที่เขาคิดว่าเขามา
คลาวด์จดจำเรื่องบางเรื่องที่เขาไม่ใช่คนทำได้แต่กลับไม่รู้ในบางเรื่องที่เขาทำ
เมื่อเซฟิรอธบอกว่าคลาวด์คนนี้เกิดจากการจำลองความทรงจำของทีฟาทำให้เขาจำเรื่องในวัยเด็กที่ทีฟาจดจำคลาวด์แบบนั้นได้
การที่คลาวด์เดินทางตามเขามาจนถึงที่นี่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงสัญชาติญาณรียูเนี่ยนของตัวโคลนเอง
ความทรงจำความโกรธแค้นทั้งหลายแหล่ก็ล้วนเป็นภาพลวงตาที่เซฟิรอธสร้างขึ้นเพื่อลวงให้คลาวด์เดินทางตามเขามา
เพราะคลาวด์เชื่อมั่นในความทรงจำที่มีกับทีฟาเขาจึงสามารถยึดเหนี่ยวความมีตัวตนมาได้จนถึงบัดนี้
แต่ตอนนี้แม้แต่ทีฟาก็ไม่สามารถช่วยยืนยันตัวตนที่แท้จริงของเขาได้
คลาวด์จึงถูกเซฟิรอธควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ จิตใจคลาวด์นั้นแตกสลายไปเรียบร้อยแล้วแต่เขาก็พยายามบอกกับคนอื่นๆว่าเขาไม่เป็นไรและฝืนเดินทางต่อจนกระทั่งมาถึงเหนือสุดของโลกอันเป็นบริเวณที่เจโนวาเคยตกลงมา
ชินระเองก็เดินทางตามเซฟิรอธมาถึงที่นี่และพบกำแพงมาทีเรียขนาดมหึมาที่เกิดจากมาโคปริมาณมหาศาลที่ตกผลึกทับถมกันมานานหลายพันปี
ร่างจริงของเซฟิรอธที่ทุกคนตามหามาตลอดหลับอยู่ในกำแพงมาทีเรียนี้
ดินแดนแห่งพันธสัญญาคือสถานที่อันมอบความสุขสูงสุดให้แก่ผู้คนนั้นแตกต่างกันไปตามการตีความของแต่ละคน
สำหรับเซฟิรอธแล้วดินแดนอันอุดมด้วยไลฟ์สตรีมที่จะช่วยให้เขาเรียกเมเทโอ
อันจะนำดวงดาวนี้กลับมาเป็นของเขาและแม่นี่แหละคือดินแดนแห่งพันธสัญญาสำหรับเขา
แล้วจิตของเซฟิรอธก็ได้ปลุกคลาวด์ลูกสมุนของเขาในฐานะร่างแยกหนึ่งของเจโนวาขึ้นมา
คลาวด์ฝืนสติกล่าวขอโทษเพื่อนๆทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่
"โคลนของเซฟิรอธ"
ผู้นี้จะส่งแบล็คมาทีเรียให้กับมือเซฟิรอธอีกครั้ง
โฮโจที่มากับคณะเดินทางของชินระหัวเราะอย่างภาคภูมิใจที่สมมุติฐานเกี่ยวกับการรียูเนี่ยนของเขาถูกต้อง
แม้จะผิดหวังนิดๆที่โคลนตัวที่เดินทางมาหาร่างจริงได้สำเร็จกลับเป็นแค่ตัวทดลองล้มเหลวที่เขาไม่ได้กำหนดหมายเลขให้ด้วยซ้ำ
ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องน่าดีใจสักนิด ตอนนี้เซฟิรอธได้แบล็คมาทีเรียไปแล้ว
เขาจะใช้มันเรียกเมเทโอลงมาถล่มดวงดาวและทุกคนจะต้องตาย
ดวงดาวสนองตอบหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยการระเบิดไลฟ์สตรีมอย่างรุนแรงพร้อมปลดปล่อยเวพ่อนออกมาทำลายทุกอย่างที่เป็นภัยต่อดวงดาว
ชินระต้องรีบพาพวกทีฟาขึ้นเรือเหาะหนีออกมาได้หวุดหวิดในขณะที่คลาวด์หายสาบสูญไป
ชัยชนะกำลังจะตกเป็นของเซฟิรอธอย่างสมบูรณ์
โดยหารู้ไม่ว่าเส้นทางก้าวสู่การเป็นผู้ปกครองดวงดาวของเขาร่วมกับเจโนวากำลังจะถูกศัตรูชั่วชีวิตคนเดิมขัดขวางอีกครั้ง
ทีฟาได้พาพรรคพวกออกตามหาคลาวด์จนมาพบตัวเขาที่มิดีลทางตอนใต้
เธออาสาอยู่ดูแลเขาโดยยังคงหวังว่าคลาวด์คนนี้คือคนเดียวกับคลาวด์ที่เธอเคยรู้จัก
ไม่ใช่โคลนแบบที่เซฟิรอธมันพูด แล้วโอกาสก็มาถึง เมื่อไลฟ์สตรีมบริเวณมิดีลเกิดระเบิดขึ้นทำเอาทั้งสองคนตกลงไปในไลฟ์สตรีม
ทีฟาลงมาจนถึงพื้นที่ความทรงจำของคลาวด์ที่อยู่ภายในไลฟ์สตรีมและร่วมกับคลาวด์ค้นหาความจริงเรื่องตัวตนของเขา
คลาวด์นึกเรื่องในอดีตวันที่ทีฟาตกภูเขา อันเป็นแรงบันดาลใจให้คลาวด์ต้องการเข้มแข็งขึ้นเพื่อช่วยทีฟาให้ได้
นี่เป็นอดีตที่มีเพียงตัวเขาคนเดียวที่รู้
ไม่ได้เกิดจากการจำลองความทรงจำของใคร แล้วความทรงจำของคลาวด์และทีฟาก็สอดคล้องกันอย่างลงตัว
คลาวด์กลับมาที่นีเบิ้ลไฮม์วันนั้น
แต่เขาปิดบังตัวเองทำให้ทีฟาไม่รู้และคิดว่าคลาวด์ไม่ได้มา
ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยู่ที่นั่นตลอด และเขาก็ได้กลับมาช่วยทีฟาตามที่เคยสัญญาไว้ในวัยเด็ก
คลาวด์คนนี้คือคนที่กำจัดเซฟิรอธได้สำเร็จ
แต่ตัวเขาก็ถูกนำไปทดลองพร้อมกับแซ็ค โดยรับเซลล์ของเจโนวาเข้ามาในร่าง
ทำให้ความทรงจำของเขาเริ่มสับสนปนเปและถูกอิทธิพลของเซฟิรอธควบคุมได้เช่นเดียวกับร่างโคลนอื่นๆ
แต่นั่นไม่สำคัญแล้ว เขานี่แหละคือคลาวด์แห่งนีเบิ้ลไฮม์ คลาวด์ก้าวพ้นภาพลวงตาของเซฟิรอธมาได้และตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับโลกแห่งความจริง
เมื่อคลาวด์กลับมาแล้วทุกคนก็มุ่งหน้าสู่ศึกชี้ขาดกับเซฟิรอธ
พวกคลาวด์ค้นพบว่าแอริธสามารถเรียกโฮลี่ได้สำเร็จแล้ว
แต่เซฟิรอธผนึกมันอยู่ทำให้โฮลี่ไม่สามารถออกมาสู้กับเมเทโอได้
แม้เกือบจะสายเกินไปแต่สุดท้ายพวกเขาก็รู้เป้าหมายของสงครามครั้งนี้
สิ่งที่พวกคลาวด์จะต้องทำคือการกำจัดเซฟิรอธเพื่อปลดปล่อยโฮลี่
และนั่นจะทำให้รอยยิ้มของแอริธไม่สูญเปล่า
ก่อนการต่อสู้สุดท้าย โฮโจพยายามยิงปืนใหญ่มาโคเพื่อส่งพลังมาให้เซฟิรอธ
ลูกชายของเขา แต่พวกคลาวด์ได้รีบเข้าหยุดยั้งการยิงปืนใหญ่เพื่อไม่ให้พลังงานของการยิงต่อเนื่องทำให้มิดการ์ต้องพินาศลง
พวกเขาสังหารโฮโจที่บ้าคลั่งลง ก่อนเดินทางมาที่เครเตอร์ตอนเหนือเพื่อเปิดศึกกับเซฟิรอธ
เซฟิรอธส่งเจโนวาออกมาต้อนรับพวกคลาวด์
มันคือเจโนวาส่วนหัวที่เซฟิรอธถือมา, ลำตัวที่พวกคลาวด์ตามล่ามาตลอดส่วนที่เหลือ
รวมทั้งเศษซากเจโนวาที่ออกจากพวกโคลนที่ถูกเซฟิรอธสังหารได้มารวมตัวกันในรียูเนี่ยนและเติบโตขึ้นจนมีขนาดมหึมา
แต่มันก็ถูกพวกคลาวด์จัดการลงได้
พวกเขาลงมาถึงแกนกลางดวงดาวพบกับแสงสว่างของโฮลี่ที่อยู่เพียงเบื้องหน้า
แต่เซฟิรอธศัตรูคนสุดท้ายของดวงดาวได้ขวางโฮลี่อยู่
"ความทรงจำของแอริธ
....ความทรงจำของพวกเรา ....เรานำความทรงจำของพวกเรามาแล้ว
มาเถอะดวงดาว ....บอกคำตอบของท่านมาสิ! ส่วนแก ...เซฟิรอธ!
ฉันจะทำให้ทุกอย่างมันจบสิ้นลงเสียที!"
คลาวด์นำเพื่อนๆเข้าสู้กับเซฟิรอธที่ได้ดูดกลืนพลังมหาศาลจากดวงดาวจนเกิดเป็นรังไหมขนาดใหญ่
พวกคลาวด์ได้ทำลายรังไหมลง แต่ร่างสุดยอดของเซฟิรอธก็ปรากฏกายขึ้นรอบบรรรยากาศที่ราวกับสรวงสวรรค์
เซฟิรอธกำเนิดเป็นเทวดาปีกเดียวผู้มีฐานะทัดเทียมพระเจ้าของดวงดาวนี้และมีพลังระดับที่สร้างซูเปอร์โนวาได้
แต่เขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่คลาวด์และพรรคพวก
ทำให้ความปรารถนาที่จะขึ้นสู่การเป็นสุดยอดชีวิตของดวงดาวของเขาต้องจบสิ้นลง
ร่างของเซฟิรอธแตกสลายไปอีกครั้ง แต่จิตของเขายังคงอยู่ในไลฟ์สตรีม
แม้จะไม่สามารถกลายเป็นพระเจ้าของดาวดวงนี้ด้วยพลังของดวงดาวเอง
แต่เขายังคงมีแผนอื่นที่จะใช้ยึดครองดวงดาวอยู่ คลาวด์รับรู้ตัวตนของเซฟิรอธที่ยังคงอยู่ในไลฟ์สตรีมและบอกกับทีฟาว่าการต่อสู้ยังไม่จบลงเสียทีเดียว
"ฉันรู้สึกได้...
มันยังอยู่ที่นี่... มัน... มันกำลังหัวเราะ!!"
คลาวด์ปล่อยจิตตัวเองให้หลุดเข้าไลฟ์สตรีมมาต่อสู้กับเซฟิรอธอีกครั้ง
โดยเชื่อว่านี่จะเป็นการตัดสินครั้งสุดท้ายของอดีตวีรบุรุษผู้เก่งกาจที่สุดของดวงดาว
กับหนุ่มบ้านนอกที่เอาชนะเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วคลาวด์ก็ระเบิดท่าไม้ตายสูงสุด
"กระบวนดาบเทพสงครามขั้นสุดยอด"
ทำลายเซฟิรอธจนแตกสลายไป
โฮลี่ถูกปลดปล่อยพุ่งขึ้นมาปะทะกับเมเทโอ ขณะที่พวกคลาวด์กลับขึ้นไปบนดวงดาวและรอดูผลของการต่อสู้ของพวกเขานั้น
ดวงดาวได้ตัดสินใจส่งไลฟ์สตรีมขึ้นมาช่วยโฮลี่กำจัดเมเทโอ
เป็นคำตอบของดวงดาวที่ตอบสนองแก่การต่อสู้อันยากลำบากของพวกคลาวด์
แต่จิตของเซฟิรอธก็ยังไม่ยอมกลับไปหลอมรวมกับไลฟ์สตรีมง่ายๆ
เขาต้องการยึดครองดาวดวงนี้
หากเขาต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของดาวดวงนี้เสียเองนั่นเท่ากับเขาล้มเหลวอย่างสมบูรณ์
และด้วยความเกลียดชังที่เขามีต่อตัวคลาวด์ทำให้ตัวตนของเขายังคงอยู่
เซฟิรอธได้สละความทรงจำส่วนใหญ่ให้ถูกกระแสไลฟ์สตรีมพัดขึ้นไปตอนที่ไลฟ์สตรีมปะทะกับเมเทโอนั้น
เขาได้ทอดทิ้งทั้งความทรงจำวัยเด็ก ความทรงจำเรื่องเพื่อนๆ
รวมถึงความทรงจำชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ผ่านมาลงหมดสิ้น
เหลือเพียงแก่นความทรงจำที่มีเพียงความโกรธเกลียดชัง
และเขายึดเอานี่เป็นตัวตนของเซฟิรอธที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ความทรงจำก้อนนี้ไม่ลงไปรวมกับไลฟ์สตรีมปกติ เกิดเป็นไลฟ์สตรีมดำขึ้น
ไลฟ์สตรีมดำได้ท่องเที่ยวไปทั่วดวงดาวและสร้างรอยปานทิ้งไว้กับผู้คนรวมถึงตัวคลาวด์
เขาเชื่อว่ารอยปานนี้จะทำให้ผู้คนนึกถึงตัวเขา
และตัวตนของเขาจะไม่มีวันแตกสลายไป ตราบเท่าที่ผู้คนยังคงจดจำเขาได้
ผู้คนบนดวงดาวจำนวนมากเสียชีวิตด้วยโรครอยปานดวงดาวหรือที่พวกเขาเรียกกันว่าจีโอสติ๊กม่า
อันเกิดจากไลฟ์สตรีมดำนี้ เมื่อผู้คนเหล่านั้นตายลง
วิญญาณที่ถูกย้อมด้วยไลฟ์สตรีมดำจะไม่สามารถกลับไปรวมกับไลฟ์สตรีมได้
และกลายป็นไลฟ์สตรีมดำไหลวนอยู่ภายในดวงดาว ยิ่งเวลาผ่านไป ไลฟ์สตรีมดำยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
และเซฟิรอธต้องการให้ไลฟ์สตรีมดำครอบครองดวงดาวนี้แทนที่ไลฟ์สตรีมทั้งหมด
นั่นคือแผนการยึดครองดวงดาวครั้งใหม่ของเขา
แอริธที่ลงมาอยู่ในไลฟ์สตรีมเช่นกันรับรู้แผนที่ว่านี้
แต่พลังของเธอก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือวิญญาณที่ถูกไลฟ์สตรีมดำครอบงำได้เนื่องจากจีโอสติ๊กม่าแพร่ระบาดไปเร็วมาก
เธอได้เผ่าโบราณคนอื่นๆที่ยังคงอยู่ในไลฟ์สตรีมมาช่วยเหลือ
และเธอก็ต้องการให้คลาวด์ช่วยเธอทางโลกด้านบนด้วย
นอกจากอดีตเลวร้ายมากมายที่ตามหลอกหลอนแล้ว ตัวคลาวด์ที่เกิดอาการสติ๊กม่ายังถูกจิตของเซฟิรอธรบกวนอีกครั้ง
นั่นหมายถึงเขายังไม่สามารถสลัดการควบคุมของเซฟิรอธออกไปได้อย่างสมบูรณ์
แม้จะจบการต่อสู้ไปแล้ว แต่คลาวด์ก็ไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างปกติสุขได้
ทีฟาที่ตอนนี้เป็นครอบครัวของคลาวด์ได้พยายามบอกให้เขาก้าวข้ามอดีต
ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่มีวันเอาชนะเซฟิรอธได้ อะไรสำคัญกว่ากันล่ะ
- ความทรงจำหรือพวกเรา?
แต่เซฟิรอธก็ยังไม่พอใจเพียงเท่านี้
เขาอยากขึ้นไปบอกให้ดวงดาวรับรู้ว่านี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงของเขา
แต่ด้วยจิตที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยอีกทั้งไม่มีความทรงจำเรื่องรูปกายตนเองหลงเหลืออยู่ด้วยซ้ำ
ทำให้เขาไม่สามารถปรากฏร่างขึ้นบนดวงดาวเบื้องบนได้ เซฟิรอธจึงค้นหาความทรงจำรูปกายที่เหมาะสมภายในดวงดาว
แล้วส่งเป็นร่างแยกของเขาขึ้นไปบนดวงดาวสามร่าง คือคาดาจ ลอซ และยาซู
มอบหมายภารกิจให้ตามหาเศษชิ้นส่วนของเจโนวาที่เหลืออยู่
เมื่อพวกเขารวมร่างกับเจโนวาจะเป็นการรียูเนี่ยนอีกครั้ง
และด้วยกายเนื้อนี้จะทำให้เซฟิรอธสามารถกลับขึ้นไปบนดวงดาวได้
รูฟัส ชินระ
รู้ดีว่ายังมีคนต้องการนำเซลล์ของเจโนวาไปใช้ทำเรื่องไม่ดีอยู่
หากมันตกไปอยู่ในมือของคนบ้าอย่างโฮโจ อาจเกิดสิ่งที่น่ากลัวอย่างเซฟิรอธขึ้นมาอีก
เขาจึงสั่งให้พวกเติร์กไปเก็บเซลล์เจโนวาที่เหลืออยู่ในเครเตอร์มา
พอพวกคาดาจรู้ว่าเซลล์อยู่กับชินระก็ได้บุกเข้าเมืองเอดจ์เพราะเชื่อว่าอนุสาวรีย์เมเทโอเป็นตำแหน่งที่ชินระซ่อนเซลล์เจโนวาไว้
แต่ทีมเดิมที่เคยหยุดยั้งความบ้าคลั่งของเซฟิรอธก็กลับมารับมือพวกคาดาจ
รวมทั้งตัวคลาวด์เองก็ได้ตัดสินใจลุกขึ้นสู้กับเซฟิรอธอีกครั้ง
คาดาจพบว่ารูฟัสเก็บเซลล์เจโนวาไว้กับตัวและชิงมาได้สำเร็จ
เขารียูเนี่ยนกับเจโนวาและเรียกความทรงจำของเซฟิรอธกลับมา
บรรยากาศปกคลุมไปด้วยไลฟ์สตรีมดำที่พวยพุ่งขึ้นมาต้อนรับการกลับมาของเทวดาปีกเดียวผู้นี้
"ข้าจะนำดาวดวงนี้เป็นนาวาล่องไปยังห้วงอวกาศอันมืดมิด
เช่นเดียวกับที่แม่ข้าเคยทำเมื่อนานมาแล้ว"
นั่นคือแผนการครอบครองดวงดาวด้วยไลฟ์สตรีมดำดังที่เขาตั้งใจไว้
คลาวด์ระเบิดพลังเข้าสู้กับเซฟิรอธอย่างเต็มที่
แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะผู้มีพลังรบสูงสุดของดวงดาวได้ เซฟิรอธเย้ยหยันศัตรูชั่วชีวิตของเขาด้วยความสะใจ
แถมยังตั้งใจว่าจะช่วงชิงทุกสิ่งที่สำคัญต่อคลาวด์ผู้เคยทำลายความหวังของเขาหลายต่อหลายครั้งให้เหี้ยน
"อะไรสำคัญกับแกมากที่สุดล่ะ?
ข้าจะช่วงชิงมันมา"
"แกมันไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ
ไม่มีอะไรที่ไม่สำคัญสำหรับฉัน!"
ด้วยความต้องการปกป้องสิ่งสำคัญนี้ทำให้คลาวด์ระเบิดพลังเหนือมนุษย์ขึ้นและใช้กระบวนดาบเทพสงครามขั้นสุดยอดหยุดยั้งความทะเยอทะยานของเซฟิรอธลงได้อีกครั้ง
"แกจงกลับไปเป็นเพียงแค่ความทรงจำเถอะนะ"
อีกทั้งจีโอสติ๊กม่าส่วนใหญ่บนดวงดาวยังถูกน้ำฝนไลฟ์สตรีมชำระล้างไป
ฝนนี้บรรจุพลังไลฟ์สตรีมบริสุทธิ์ที่แอริธภาวนาให้ดวงดาวส่งขึ้นมา
เทวดาปีกเดียวผู้นี้อาจไม่มีวันไปถึงสรวงสวรรค์
แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะหลับในไลฟ์สตรีมอย่างสงบ
แล้วอดีตวีรบุรุษผู้กลายเป็นศัตรูของดวงดาวชั่วนิรันดร์ก็ได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้...
"ข้าจะไม่ยอมเป็นเพียงแค่ความทรงจำ!"
Conceptual Design & Early
Materials
-
ในตัวบททีแรกนั้นเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างเซฟิรอธและแอริธหลายครั้ง
ทั้งให้เป็นคนรักและเป็นพี่น้องกัน
-
ทีแรกที่ยังไม่มีคอนเซปต์ของการรียูเนี่ยนนั้น
ตั้งใจให้จิตของเซฟิรอธหลุดเข้าไปควบคุมคลาวด์หลังจากแพ้ให้กับเขาที่นีเบิ้ลไฮม์
-
ในตอนแรกนั้นชิ้นส่วนของเจโนวาที่ลงมาสู้ไม่ได้กำหนดให้เป็น
Birth-Life-Death
แต่ระบุชิ้นส่วนตามอวัยวะที่โยนลงมาจริงๆ
เราจะต้องสู้กับแขนขวาบนเรือ, หัวแม่มือบนทางเข้านีเบิ้ลไฮม์,
หัวเข่าในวิหารเผ่าโบราณ, ขาในนครสาบสูญ (สู้ 1-1 กับคลาวด์),
และตัวที่พวกคลาวด์ตามมาตลอดคือ "หัวใจ"
ที่จะสู้กับเราที่แดนเหนือ
-
ใน
Advent Children นั้นเซฟิรอธหลังเกิดใหม่ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก
ในการต่อสู้กับคลาวด์เขาไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ (Reunion
Files
ถึงกับบรรยายว่าตอนสู้กับคลาวด์ เซฟิรอธไม่ทันเสียเหงื่อสักหยด)
คุณคิตาเสะยืนยันว่าทั้งร่างกายและจิตของเซฟิรอธนั้นแข็งแกร่งที่สุดและไม่มีสิ่งไหนแข็งแกร่งเกินตัวเขาไปได้อีกแล้ว
-
ทีมงาน
Advent Children ไม่ให้เซฟิรอธกระพริบตาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นตัวตนที่ผิดไปจากสิ่งมีชีวิตปกติ
-
พวกคาดาจล้วนถ่ายทอดลักษณะมาจากเซฟิรอธ โดยลอซถ่ายทอดร่างกายกำยำ,
ยาซูถ่ายทอดความงดงาม และคาดาจถ่ายทอดความโหดเหี้ยมมา คาดาจมีรูปร่างภายนอกเด็กที่สุดในกลุ่ม
ทีมงานต้องการให้ผู้นำของกลุ่มเป็นคนที่เด็กที่สุดซึ่งจะดูชั่วร้ายกว่า
และกลัวว่าถ้าให้ทั้งสามคนอยู่ในวัยทีนทั้งหมด
ตอนที่ไปพาพวกเด็กๆขึ้นรถจะดูเหมือนเด็กทะเลาะกันไปซะงั้น
จึงให้ลักษณะภายนอกของลอซและยาซูดูเหมือนคนวัยยี่สิบกว่าๆ
แต่คนที่เป็นเด็กยักษ์ตัวจริงก็คือเจ้าลอซนี่แหละ
(ตอนขี่มอเตอร์ไซค์ทำเสียงบรืนๆ~ตามด้วยนะ)
Trivia
-
เซฟิรอธถือมาซามุเนะด้วยมือซ้าย พวกคาดาจทุกคนต่างก็ถนัดซ้ายเช่นเดียวกับเซฟิรอธ
-
ตอนคลาวด์เล่าความหลัง เซฟิรอธจะอยู่ในปาร์ตี้
แต่เราไม่สามารถควบคุมเขาได้ เซฟิรอธมีเลเวล 50 ดาบมาซามุเนะมีพลังโจมตี
99 และสามารถติดตั้งมาทีเรียได้หกช่อง เขาไม่มีทางเสียพลัง
ซึ่งก็ทำให้เกจลิมิตเบรกของเขาไม่ขึ้นด้วย
-
เสียงของเซฟิรอธถูกส่งผ่านทางเซลล์ของเจโนวาที่อยู่ในตัวร่างโคลน
ทำให้คลาวด์รวมทั้งพวกโคลนของเซฟิรอธสามารถได้ยินเสียงของเซฟิรอธไม่ว่าตัวจริงของเขาจะอยู่ที่ไหนในดวงดาว
-
เซฟิรอธจะต้องสู้กับตัวเอกในทุกๆภาคที่เขาปรากฏตัว
นอกจากภาคหลัก,
Advent Children และ Crisis Core
ที่คลาวด์และแซ็คได้สู้กับเซฟิรอธหลายครั้งแล้ว
ในภาค Last Order
ยังมีฉากการต่อสู้ระหว่างเขากับแซ็คในเตาปฏิกรณ์ ซึ่งแซ็คเองก็สู้เซฟิรอธไม่ไหว
ขณะที่ใน Before Crisis นั้น เติร์กที่เข้ามาในเตาปฏิกรณ์เพื่อหยุดยั้งเซฟิรอธถูกเซฟิรอธหันหลังฟันใส่จนสลบไป
(อนาถจริง!)
-
ในภาคหลักและ
Crisis Core นั้นคลาวด์จะเป็นคนส่งเซฟิรอธลงไปก้นเตาปฏิกรณ์
ในขณะที่ใน Last Order และ Before
Crisis นั้นเซฟิรอธจะตัดสินใจกระโดดลงไปเองเพราะเขารู้ว่าการลงไปในไลฟ์สตรีมจะช่วยให้เขาดูดซับความรู้มากมายมหาศาล
และค้นพบวิธีการนำดวงดาวมาเป็นของเขาและเจโนวา ซึ่งไม่ว่าเซฟิรอธจะตั้งใจตกลงไปเองหรือไม่
ผลลัพธ์ที่เซฟิรอธดูดซับความรู้มากมายและกำเนิดใหม่ที่เครเตอร์ตอนเหนือก็ยังคงเหมือนเดิม
และหลังการดูดซับไลฟ์สตรีมครั้งนี้ทำให้เซฟิรอธสามารถใช้เวทได้โดยไม่ต้องอาศัยมาทีเรียอีกด้วย
-
เซฟิรอธ เป็นภาษาฮิบรูหมายถึงการจุติของพระผู้เป็นเจ้าลงมาบนกายหยาบ
เช่นเดียวกับเซฟิรอธที่จุติบนดวงดาวได้โดยผ่านทางเจโนวา
-
เซฟิรอธและเจโนวาเกี่ยวพันกับการตายและการถือกำเนิดใหม่ซึ่งสอดคล้องกับธีม
"ชีวิต"
ของ FFVII เป็นอย่างดี ชื่อของเจโนวาที่เซฟิรอธทิ้งลงมาสู้กับเราตามลำดับคือ
Birth-Life-Death สำหรับตัวเซฟิรอธนั้นได้ตายและถือกำเนิดใหม่ขึ้นถึงสองครั้ง
(Rebirth-Second Coming) โดยชื่อภาค
Advent Children นี้คำว่า Advent
ตั้งใจให้หมายถึง Second Coming
ของเซฟิรอธ
-
เซฟิรอธร่างสุดท้ายมีปีกอยู่ที่แขนขวา ส่วนใน
Advent Children
เขามีมีปีกสีดำงอกออกมาข้างขวา สมญา "เทวดาปีกเดียว"
(One-Winged Angel)
นี้หมายถึงตัวเซฟิรอธผู้เป็นเทวดาตกสวรรค์, วีรบุรุษผู้พังทลาย
และผู้ไม่อาจก้าวเป็นพระเจ้าได้
-
ใน
Crisis Core นอกจากจะได้เห็นแง่มุมดีๆของเซฟิรอธสมัยที่ยังไม่บ้าคลั่งแล้วเมล์จากบรรดาแฟนคลับเซฟิรอธยังมีเรื่องฮาๆอีกมาก
เช่นเรื่องสามตำนานโซลเยอร์แอบใช้ห้องฝึกพิเศษซ้อมปาเป้า
โดยเอาดาบปาใส่แอปเปิ้ลบนหัวเพื่อนกัน (เซฟิรอธชนะตลอด)
หรือเรื่องผมนุ่มสลวยของเซฟิรอธที่สระด้วยแชมพูพิเศษของชินระแถมใช้แชมพูกับครีมนวดทีเดียวหมดทั้งขวด
(มีทั้งกลิ่นวานิลา และกลิ่นกุหลาบ!)
ประธานแฟนคลับนี้เป็นคนที่ใกล้ชิดเซฟิรอธมากเป็นพิเศษ
(คนในคลับเข้าใจว่าเป็นผู้หญิง) คนๆนี้ใช้ชื่อย่อว่า H.
ถึงจะไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นใครกันแน่ แต่จากตอนที่มีข่าวว่าเซฟิรอธเสียชีวิตนั้นประธานบอกกับสมาชิกว่าเซฟิรอธยังไม่ตาย
และเขามีแผนอยู่ ขอให้ชาวคลับรอจนกว่าจะถึงเวลา
...ฟังแล้วนึกถึงใครบางคนอยู่นะ
-
เครื่องแบบของโซลเยอร์ 1st
class มาตรฐานคือชุดสีดำเหมือนที่แซ็คและแองจีลสวม
อันที่จริงโซลเยอร์ 1st class
มีอภิสิทธิ์จะใส่ชุดอะไรก็ได้
และยังใช้อาวุธส่วนตัวแถมมีสิทธิ์ปฏิเสธภารกิจได้ด้วย (ซึ่งเซฟิรอธก็ใช้อภิสิทธิ์มันครบทั้งสามข้อ)
<กลับไปหน้าหลัก> |