โดยรวมแล้ว ผมชอบตอนนี้นะ^^ เป็นฟิคตอนที่สองที่ผมใช้ภาษาตัวเองแต่งเอา
(อีกตอนเป็นอีกเรื่อง ไว้แต่งได้ครึ่งเรื่องก่อนค่อยเอามาลง เพราะกลัวตัวเองหมดไฟก่อนแต่งจบเหมือนฟิคคนอื่นที่มีให้เห็นบ่อย==)
ไม่ว่าจะบอร์ดใหม่หรือบอร์ดเก่า ผมก็ยังจัดหน้าไม่เป็น^^"
====
Giant Snail
คุณรู้จักหอยทากไหม?
มันเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ตัวเล็ก ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่มีเปลือกหอยที่มีลวดลายแตกต่างกันไปตามชนิดคอยห่อหุ้มเนื้อกายภายในอยู่ ลำตัวของมันขดอยู่กับเปลือกหอยที่ว่า แต่หากคุณสามารถถอดเปลือกหอยนี้ออกมาได้ คุณจะพบกับจมูกที่งอกออกมาจากส่วนหัวราวกับเสาอากาศสองด้าม และมีลำตัวที่ยาวเลื้อยออกมา ส่วนจะยาวขนาดไหนก็แล้วแต่ชนิดของมันกันไป มันมีอายุมาได้ประมาณสี่ร้อยล้านปีแล้ว เพราะฉะนั้นหากมันจะวิวัฒนาการไปเป็นหลากหลายสายพันธุ์ก็คงไม่แปลกอะไร อย่างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็คือ หอยทากยักษ์สายพันธุ์แอฟริกันที่วัดความยาวตั้งแต่ปลายจมูกไปถึงหางได้ความยาวประมาณสามสิบเก้าเซนติเมตรและแค่เฉพาะเปลือกหอยมันก็มีขนาดยี่สิบเจ็ดเซนติเมตรไปแล้ว --- ตอนนี้คุณคงกำลังคิดว่ามันใหญ่มากมายสำหรับคำว่า “หอยทาก” เลยใช่ไหม? แต่นั่นไม่ใช่กับพวกริโอว…
ลืมขนาดเปลือกหอยยี่สิบเจ็ดเซ็นที่ว่าไปได้เลย เพราะขนาดของเปลือกหอยที่พวกริโอวกำลังเผชิญอยู่นี้มันใหญ่มากกว่านัก มันใหญ่ขนาดที่หากพวกเขาคนใดคนหนึ่งไปยืนเก๊กถ่ายรูปโดยเอาเปลือกหอยนี้เป็นฉากกั้นล่ะก็ ส่วนเดียวที่จะโผล่ออกมาให้สามารถถ่ายรูปได้ก็คือศีรษะนั่นเอง --- และแน่นอนเมื่อมีเปลือกหอยก็ย่อมมีผู้อาศัยในเปลือกหอย
“เจ้าพวกนี้มันตัวอะไรกัน!?” นานามิตระโกนถามคินนิสัน หลังจากที่เธอเพิ่งกระโดดหลบส่วนหัวของหอยทากยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่เธอก่อนจะหดกลับเข้าเปลือกหอยไปเหมือนเดิม
“ก็หอยทากไง” คินนิสันร้องตอบกลับไปราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็รู้ ขณะที่เขากระโดดหลบการโจมตีจากหอยทากตัวที่สอง
“หอยทากที่ฉันรู้จักมันไม่ใช่ขนาดนี้นะ!” นานามิบอกอย่างหัวเสีย เมื่อพบว่าพวกเธอกำลังถูกหอยทากที่มีขนาดใหญ่เท่าๆกับมนุษย์คนหนึ่งโจมตีถึงห้าตัว
“เอ่อ… ก็พวกมันเป็น หอยทากยักษ์นี่” เขาลังเลชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มตอบเธอกลับไป
ใช่ ตอนนี้พวกริโอวกำลังต่อสู้อยู่กับหอยทากที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่พวกเขาเคยเจอ ซ้ำหอยทากพวกนี้ยังแหกกฎของเผ่าพันธุ์ที่ว่า “หอยทากต้องเชื่องช้า” เมื่อพวกมันยืดส่วนหัวออกมาโจมตีพวกริโอวอย่างรวดเร็วก่อนจะหดกลับเข้าเปลือกไป และโจมตีแบบเดิมซ้ำอีกมาเป็นระลอก
“พวกนี้มีการโจมตีแค่รูปแบบเดียว เราหาช่องว่างจากการโจมตีของพวกมันได้” ริโอวร้องบอกเพื่อนๆที่กระจัดกระจายแยกกันไปตามการโจมตีของหอยทากยักษ์ ก่อนที่เขาจะพุ่งหลบไปทางด้านขวา
“คินนิสัน ขึ้นมาที่สตาร์ฟของฉัน!” โจวี่ตระโกนเรียกนายพรานหนุ่มที่กำลังหาทางหลบการโจมตีของพวกหอยทาก ก่อนที่เขาจะยื่นสตาร์ฟออกมาข้างหน้ากลางอากาศที่ว่างเปล่า
“นายจะทำอะไร?” คินนิสันมองสตาร์ฟที่ถูกยื่นออกมาอย่างไม่ไว้วางใจ
“ขึ้นมาซะ!” โจวี่ตระโกนเสียงดุใส่ จนคินนิสันจำใจต้องกระโดดขึ้นมาเหยียบสตาร์ฟของโจวี่
“พร้อมนะ” โจวี่ร้องถาม
“พร้อมอะ… เฮ้ย!!” น่าเสียดายที่เสียงของคำถามกลับกลายเป็นเสียงร้องอย่างตกใจเสียก่อนจะทันพูดจบ เมื่อโจวี่ฟาดสตาร์ฟของตนขึ้นสู่ฟ้า เป็นแรงเหวี่ยงให้คินนิสันพุ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความเร็วสูง ทุกคนต่างได้ยินเสียงร้องอย่างเสียขวัญของเขาเมื่อคินนิสันพุ่งขึ้นผ่านพ้นม่านใบไม้ที่บดบังแสงอาทิตย์ ก่อนที่เสียงของเขาจะเงียบหายไป
“โฮ่ง ๆ” ชิโร่เห่าเรียกเจ้านายที่หายลับไปสู่เบื้องบนกับตา การต่อสู้ดูจะหยุดไปสักพัก เมื่อทั้งคนและสุนัข(และหอยทาก) ต่างเงยหน้าขึ้นมองม่านใบไม้ที่ปกคลุมอยู่ข้างบน ราวกับรออะไรบางอย่างจากฟากฟ้า
“ช่วยด้วยยยย!” และนั่นคือเสียงจากฟากฟ้าที่พวกเขารอ ก่อนที่จะตามด้วยเสียงซวบซาบของใบไม้ที่ดังอย่างต่อเนื่อง และสิ้นสุดลงที่เสียงของอะไรบางอย่างกระทบเข้ากับกิ่งไม้ขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือโจวี่ไปไม่ไกล
“ว้าว นายขึ้นไปสูงจัง” มิลลี่เอ่ยแซวพรานหนุ่มที่มีสีหน้าม่วงคล้ำอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไป
“ฉะ ฉันเกลียดความสูง” พรานหนุ่มสารภาพก่อนจะทรุดหน้าลงกับกิ่งไม้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ จากนั้นการต่อสู้จึงเริ่มต้นอีกครั้ง
“นายอยู่บนนั้น แล้วหาทางโจมตีพวกมันด้วยลูกธนูระหว่างที่มันโจมตีพวกฉัน” โจวี่ตระโกนบอกคินนิสันที่อยู่ข้างบน แล้วพรานหนุ่มก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาทั้งที่หน้ายังทรุดอยู่กับกิ่งไม้เป็นสัญญาณบอกว่าเขารับรู้แล้ว แต่ขอเวลาสักพัก
การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ยากลำบากเลยสักนิดหากพวกหอยทากทั้งห้าไม่รุมล้อมพวกเขาทุกคนเอาไว้ ซ้ำเมื่ออีกตัวยื่นหัวออกมาโจมตีแล้วหดกลับไป หอยทากอีกตัวก็จะโจมตีพวกเขาติดต่อกันไปอย่างนี้ทุกตัว ทำให้พวกเขาทุกคนเสียจังหวะการตอบโต้โดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้โจวี่ต้องหาทางส่งใครสักคนที่มีระยะการโจมตีเป็นระยะไกลขึ้นไปข้างบนเพื่อหาทางตอบโต้พวกหอยทากพวกนี้ มันเป็นแผนที่ค่อนข้างเยี่ยมยอด --- แต่เสียแค่อย่างเดียวคือ เขาเลือกส่งคนที่กลัวความสูงขึ้นไป และคนๆนั้นกำลังนอนทรุดหน้าอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่เหนือหัวพวกเขา
“กรรรร!” ชิโร่ที่หลบการโจมตีของพวกหอยทากได้คำรามขึ้น เมื่อมันหวังที่จะกระโดดเข้ากัดลำคอส่วนหัวที่พุ่งยื่นออกมาของพวกหอยทาก แต่มันก็กัดได้เพียงแค่อากาศที่ว่างเปล่า เมื่อหอยทากพวกนั้นหดหัวกลับไปได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ
“โธ่เว้ย! ฉันทำอะไรไม่ได้เลย” มิลลี่สบถขึ้น อาวุธของเธอคือบูมเบอแรงขนาดเล็กและมันไร้ประโยชน์เมื่อถูกโจมตีระยะประชิดอย่างที่เธอพบอยู่ตอนนี้
“คินนิสัน!” นานามิร้องเรียกคนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างบน “ทำอะไรสักอย่างเร็วเข้า!”
เด็กหนุ่มตอบสนองเสียงเรียกด้วยการขยับตัวเพียงเล็กน้อยอย่างยากลำบาก
“พวกเธอไม่เห็นใจคนกลัวความสูงเลย” และนั่นคือคำที่เขาบอกลงมา ก่อนเขาจะพยายามดันตัวเองไปลุกนั่งพิงกับลำต้นต้นไม้ด้านหลังได้สำเร็จ
“ให้ตาย หัวฉันเบลอไปหมด จะเล็งลูกธนูได้ยังไงละเนี่ย” เขากล่าวขึ้นเมื่อหยิบคันธนูและลูกศรขึ้นมาเล็ง
หลายคนเข้าใจว่าการที่เราจะเล็งอะไรให้แม่นๆ เราจำเป็นต้องหลับตาลงข้างหนึ่งเพื่อที่ดวงตาอีกข้างจะได้มองเห็นอะไรชัดขึ้นแต่ความจริงคือไม่ใช่เลย การที่เราหลับตาลงข้างหนึ่งขณะที่เรากำลังเล็งอะไรอยู่นั้นก็เพียงเพื่อตั้งสมาธิให้เราจดจ่อกับสิ่งที่เราเล็งอยู่เท่านั้น ซึ่งนั่นก็เท่ากับเป็นการเพิ่มภาระประสาทการมองเห็นให้ดวงตาอีกข้างเช่นกัน และสำหรับนายพรานหนุ่มอย่างคินนิสันเขาย่อมรู้เรื่องนี้ดี
แต่ปัญหาก็คือ… เขากำลังเมาความสูงอยู่
เฟี้ยววว!
และนั่นคือเสียงของลูกธนูที่พุ่งผ่านอากาศจากเบื้องบนลงมาด้วยความเร็วสูง
ฉึก!
และนั่นคือเสียงของลูกธนูดอกนั้นที่พุ่งปักลงเข้ากับพื้นดินเบื้องล่างหลังริโอวไปเพียงเล็กน้อย
“…”
และนี่คือความเงียบงันที่เพื่อนๆ มอบให้กับคินนิสัน ก่อนที่พวกหอยทากจะโจมตีเพื่อเรียกร้องความสนใจกลับมาอีกครั้ง
“ทำบ้าอะไรของนาย!” นานามิตระโกนอย่างหัวเสียเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้
“ก็ฉันเมาความสูงอยู่นี่!” คินนิสันแก้ตัวกลับไปก่อนจะหันไปเห็นการโจมตีของหอยทากที่พุ่งเข้ามาโจมตีมิลลี่อย่างไม่รู้ตัว “ระวัง มิลลี่!”
เปรี้ยง!
เสียงกระทบของทอนฟาและเปลือกหอยดังขึ้น ก่อนที่เปลือกหอยยักษ์จะล้มลงไป ถึงแม้เปลือกหอยจะไม่แตกหรือเกิดรอยร้าวเลยสักนิดแต่นั่นก็ทำให้ส่วนหัวของหอยทากยักษ์ที่พุ่งออกมาชะงักความเร็วลงไปล้มลงกับพื้นดินเหมือนดังเปลือกหอยของมัน --- และนั่นก็เป็นโอกาสเพียงพอให้โจวี่ฟาดสตาร์ฟของตนลงกลับลำคอส่วนที่ยื่นออกมาของหอยทากยักษ์ตัวนั้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง หมดโอกาสให้มันจู่โจมมิลลี่ได้
“แฮ่!” เป็นที่รับรู้กันว่าหอยทากสายพันธุ์นี้สามารถส่งเสียงร้องได้
และดูเหมือนเพื่อนๆทุกคนจะรับรู้วิธีปราบหอยทากยักษ์โดยไม่ต้องพึ่งเด็กหนุ่มที่กำลังเล็งธนูอยู่ด้านบนอีกต่อไป
ในอีกห้านาทีต่อมา พวกเขาก็ออกเดินทางทางตามหาเด็กน้อยกันต่อไป
“ฉันรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ยังไงไม่รู้แฮะ…” คินนิสันพูดเสียงอ่อยขณะที่เดินตามหลังทุกคนไป โดยมีเจ้าหมาชิโร่ส่งเสียงหงิงๆ เลียมือเขาอยู่ข้างๆ
====
อ่านดูแล้วคินนิสันช่างรั่ว... ยิ่งนัก
สรุปเนื้อเรื่องทั้งหมดของตอนนี้เลยดีกว่า~
[Reveal] Spoiler:
สู้กับมอนหอยทากชนะ
(จะสปอยส์เพื่อ?) แล้วชาติไหนจะแต่งจบล่ะนี่==
ไว้ตอนดึกๆ จะมาลงตอนต่อไปครับ^^